เรื่องราวของเด็กชายที่เป็นอัฉริยะระดับโลก แต่กลับไม่มีใครในบ้านรับฟังจนทำให้เขาต้องหนีออกจากบ้าน หนังที่สะท้อนสังคมและมุมมองของเด็กและผู้ใหญ่ที่คุณไม่ควรพลาดรับชม เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ตาม KUBET ไปดูสปอยหนังกันเลย
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาษาไทย: การเดินทางของ ที เอส สปิเว็ท มหัศจรรย์เด็กอัจฉริยะ
ชื่อภาษาอังกฤษ: The Young and Prodigious T.S. Spivet
วันที่เข้าฉาย: 28 กันยายน 2013
ประเทศที่เข้าฉาย: ฝรั่งเศส, แคนาดา
ประเภทหนัง: ดราม่า, ผจญภัย
กำกับโดย: ฌอง-ปิแอร์ เฌอเนต์ (Jean-Pierre Jeunet)
เขียนบทโดย: ฌอง-ปิแอร์ เฌอเนต์ (Jean-Pierre Jeunet), กิโยม โลรองต์ (Guillaume Laurant)
นำแสดงโดย: เฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์ (รับบท ดร.แคลร์ สปิเว็ท แม่), คัลลัม คีธ เรนนี่ (รับบท เทคัมเซห์ เอลิจาห์ สปิเว็ท พ่อ), เนียมห์ วิลสันรับบทเป็น เกรซี่ สปิเว็ท พี่สาว,ไคล์ แคทเล็ตต์ (รับบท ที. เอส . สปิเว็ต หรือ ทีคัมเซห์ สแปร์โรว์ สปิเว็ท ลูกชาย)
ความยาว: 105 นาที ( 1 ชั่วโมง 45 นาที)
เรทติ้งหนัง: 7.1/10
KUBET สปอยหนัง The Young and Prodigious T.S. Spivet
เรื่องราวของเด็กน้อยนามว่า ‘ทีเอส สปิเว็ท’ ที่เติบโตท่ามกลางครอบครัวขนาดกลางที่ตั้งอยู่ในแถบชนบท ประกอบไปด้วยพ่อที่ชื่นชอบคาวบอย แม่ที่เป็นดร.ผู้เชี่ยวชาญด้านแมลง พี่สาววัย 14 ปีที่ใฝ่ฝันอยากเป็นมิส USA และสุดท้ายลูกชายฝาแฝดอย่าง ทีเอส และ เลย์ตัน แต่ทว่าหลังจากอุบัติเหตุปืนลั่นเมื่อหนึ่งปีก่อนทำให้เลย์ตันเสียชีวิตลง
ถึงแม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะผ่านมาแล้วเป็นปี แต่ทีเอสก็ยังรู้สึกผิดอยู่ลึกๆมาโดยตลอด เพราะเขาอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย อย่างไรก็ตาม เด็กชายไม่เคยได้ระบายความในใจให้ใครฟัง และด้วยความที่เขาเป็นเด็กฉลาด แต่ละวันของเขาจึงหมดไปกับการคิดค้นและสร้างสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเครื่องฉายภาพเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องที่ยังไม่เคยมีใครทำสำเร็จ
จนกระทั่งวันหนึ่งผู้ช่วยเลขานุการจากสถาบันแห่งหนึ่งได้โทรเข้ามาหาทีเอส ปลายสายต้องการให้ทีเอสเข้าไปพูดสุนทรพจน์งานครบรอบ 150 ปีที่เมืองนิวยอร์ก เพราะสิ่งประดิษฐ์วงล้อแม่เหล็กของเขาได้รับรางวัล ซึ่งในตอนนั้นเด็กชายโกหกไปว่าทีเอสเป็นชื่อพ่อของเขา และยังปฏิเสธที่จะไปรับรางวัลในสัปดาห์หน้า เนื่องจากวันนั้นเป็นวันที่เด็กชายต้องไปโรงเรียน
ติดตามรีวิวหนัง หนังใหม่เข้าโรง อนิเมะน่าดูและข่าวสารวงการบันเทิงใต้เตียงดาราได้ที่ KUBET
ซึ่งพอพี่สาวรู้เรื่อง เธอกลับคิดว่าน้องชายของเธอกุเรื่องแต่งขึ้นมา และยังรู้สึกว่าครอบครัวของเธอไม่มีใครปกติสักคน ด้านของทีเอสก็รู้ตัวดีว่า เขามีสมองแตกต่างกับเด็กวัยอื่น เวลาเขาเสนอความคิดเห็นอะไร พวกผู้ใหญ่มักไม่ฟังเขา เพราะคิดว่าเขาเป็นเพียงเด็ก เหมือนกับครูที่โรงเรียนที่มักจะวิจารณ์การบ้านของเขา ว่าเขาคิดนอกกรอบจนเกินไป ทั้งๆที่ชิ้นงานนั้นได้ลงนิตยสารชื่อดัง แม้กระทั่งพ่อของเขาที่ไม่เคยฟังลูกชายที่อยากจะช่วยแก้ไขในเรื่องภัยแล้ง
ด้วยเหตุนี้ ทีเอส จึงตัดสินใจที่จะไปรับรางวัลที่เมืองนิวยอร์กแทนการไปโรงเรียน ด้วยความคิดที่ว่าที่นั่นจะต้องมีคนที่ต้องการความสามารถของเขาอย่างแน่นอน เด็กชายเริ่มต้นเก็บข้าวของลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่และแอบหนีขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางไปนิวยอร์กด้วยความทุลักทุเล แต่ในที่สุดเด็กชายก็ไปถึงสถาบันสมิธโซเนียนและได้เจอกับเลขานุการ ซึ่งเธอรับรู้ได้ทันทีว่าทีเอสเป็นเด็กอัจฉริยะ และเขายังบอกเลขาอีกว่าตัวเขาเป็นเด็กกำพร้า
เลขาจิ๊บเซ่นได้พาทีเอสไปหาหมอ ก่อนจะพาไปงานรับรางวัลอันทรงเกียรติ ภายในงานมีผู้มีชื่อเสียงมากมายพุ่งความสนใจมาที่เด็กชาย แต่เขากลับไม่รู้สึกดีใจแม้แต่น้อย เพราะรู้สึกว่ารอยยิ้มของพวกเขานั้นจอมปลอม จากนั้นทีเอสได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ว่า
สามสิ่งที่เขาอยากบอกทุกคนนั่นคือ หนึ่ง เขาขอบคุณที่ไม่ยกเลิกรางวัลของเขา เพราะเห็นว่าเขาเป็นเด็ก สอง ผลงานของเขามันเป็นเพียงแค่งานออกแบบเท่านั้น ยังเป็นเรื่องยากที่ต้องใช้เวลาศึกษาอีกนาน
สุดท้ายเขาได้พูดถึงน้องชายที่เสียไปของเขาว่า ในตอนนั้นเขากำลังเล่นกับน้องชายในโรงเก็บของ ทว่าปืนของเลย์ตันกลับลั่นขึ้นมา และเขาก็เห็นกับตาว่า ร่างของเลย์ตันลอยข้ามห้องออกไป ทิ้งเพียงกองเลือดไว้ จากนั้นเขาก็ได้วิ่งไปบอกพ่อ ก่อนจะฝังตัวเองไว้ในห้องน้ำ วันนั้นเป็นวันที่แย่ที่สุดในชีวิตของเขา บรรยากาศในห้องรับรางวัลเริ่มเงียบไป เหลือเพียงเสียงปรบมือที่ปลอบประโลมทีเอส
ติดตามรีวิวหนัง หนังใหม่เข้าโรง อนิเมะน่าดูและข่าวสารวงการบันเทิงใต้เตียงดาราได้ที่ KUBET
ขณะเดียวกัน เขาหารู้ไม่ว่าแม่ของเขา ดร.แคลร์ ก็ไปร่วมงานแสดงความยินดีด้วยเช่นกันและได้ฟังเรื่องที่ทีเอสพูดทั้งหมด ทำให้เธอรับรู้ว่าลูกชายยังคงเสียใจกับการจากไปของน้องชาย ซึ่งทีเอสก็หวังไว้เช่นกันว่าตนเองจะก้าวข้ามผ่านเรื่องเหล่านี้ไปได้
หลังจบงานรับรางวัล ทีเอสก็ได้กลายเป็นเด็กที่โด่งดังที่สุด มีคิวออกงานมากมาย จนกระทั่งในทีวีโชว์รายการหนึ่ง ได้เชิญแม่ของเขามาเป็นแขกรับเชิญ ทีเอสตกใจอย่างมาก แต่แคลร์ได้พูดปลอบใจเขาว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมันเป็นอุบัติเหตุ มันไม่ใช่ความผิดของเขา ก่อนที่จะถามเขาว่าอยากอยู่ต่อหรือไป ซึ่งทีเอสตอบว่า “ไป” อย่างไว ทั้งสองจึงเดินออกจากรายการท่ามกลางความงุนงงของพิธีกรและผู้ชม
เด็กชายทีเอส สปิเว็ทได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติที่บ้านของเขา แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ ทุกคนในบ้านเข้าใจกันมากขึ้น และที่สำคัญเขากำลังมีน้องคนใหม่ที่กำลังจะคลอดในไม่ช้า พร้อมกับไขข้อสงสัยเกี่ยวกับชีวิตของเขามาโดยตลอด
แง่คิดจากหนัง
The Young and Prodigious T.S. Spivet หนังเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงสังคมปัจจุบันที่ยังมีความเชื่อว่า ‘ผู้ใหญ่มักถูกเสมอ’ ทำให้พวกเขาปิดกั้นและไม่รับฟังความคิดเห็นของเยาวชน หรือ ผู้ที่อายุน้อยกว่า จนเกิดเป็นความไม่เข้าใจกันและการทะเลาะกัน ทั้งนี้การเปิดใจยอมรับฟังซึ่งกันและกันมันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจและนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างประนีประนอม
สมัครสมาชิก! ผ่านทางเว็บไซต์ KUBET City พร้อมรับชมหนังและข่าวสารบันเทิงที่ให้คุณอัพเดทก่อนใคร ทั้งข่าวสารละครไทย ซีรี่ย์ ภาพยนตร์ อนิเมะ ข่าวบันเทิง ชีวิตดารา ข่าวดารา ซุบซิบดารา ให้คุณได้รู้จักและติดตามนักร้องและดาราที่คุณชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิดเสมือนอยู่ใต้เตียง พร้อมรับชมภาพยนตร์ทั้งในและนอกประเทศมากกว่า 1,000 เรื่องอย่างจุใจตลอด 24 ชั่วโมง