KUBET สปอยหนังต่อจาก Moon Knight [Part 1] หนึ่งในฮีโร่สุดดาร์กจากค่ายMarvel ที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับหนักมาก จนไม่รู้ว่าตนเองละเมอและทำอะไรลงไปในชั่วค่ำคืน เรื่องราวสุดว้าวุ่นจะเป็นอย่างไร? เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขากันแน่? สายสปอยตามไปรับชมกันเลย!
อาการวูบปริศนา
มาร์กต้องหาเบาะแสของอาเธอร์ด้วยตนเอง ในขณะที่เขากำลังจะฆ่าคน เขาก็เกิดอาการวูบ และตื่นขึ้นมาอีกครั้งและได้พบว่าตนเองนั่งอยู่บนแท็กซี่ที่รอบตัวมีแก๊งอันธพาลกลุ่มเดิม ทำให้เขาต้องจับพวกมันมาเค้นความจริง ขณะที่เขากำลังสอบปากคำอยู่นั้น เขาก็เกิดอาการวูบอีกครั้งและเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าอันธพาลเหล่านั้นถูกฆ่าตายหมดแล้ว
มาร์กหงุดหงิดมากและเชื่อว่านี่เป็นฝีมือของสตีเว่น แต่เขาก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่าเขาไม่ใช่คนทำ ในขณะที่ไม่สามารถหาหลักฐานเกี่ยวกับอาเธอร์ได้ คอนซูก็ได้บอกกับมาร์กว่าเหลือวิธีเดียวคือ ข้าต้องเรียกประชุมเหล่าเทพ และบอกต่ออีกว่า ตอนนี้การประชุมได้เริ่มขึ้นแล้ว อวตารของเหล่าเทพอยู่ในห้องโถงใหญ่ของพีระมิด
การไต่สวนที่ไร้หลักฐาน
เมื่อพวกเขาไปถึงก็ได้เริ่มการไต่สวน โดยมาร์กได้กล่าวว่าอาเธอร์ แฮโรต้องการปลดผนึกอัมมิท แต่อาเธอร์ปฏเสธเสียงแข็ง ตอกกลับมาร์กว่า คอนซูเองรึเปล่า เพราะช่วงหลังมานี้เขามีอาการแปลกๆ และอวตารของคอนซูนั้นป่วยเป็นโรคหลายบุคคลิกด้วย โดยเมื่อเหล่าเทพพิจารณาแล้ว พบว่ามาร์กนั้นป่วยจริง เขาจึงบอกให้อาเธอร์พ้นผิด และบอกกับคอนซูอีกด้วยว่า ถ้าเจ้าเสี่ยงให้เราโดนเปิดเผยตัวตนจริงอีกครั้ง หรือไปยุ่งกับท้องฟ้า พวกเราจะขังเจ้าไว้ในศิลาเอง
เมื่อเหล่าเทพจากไป ‘ยัดซิว’ อวตารของแฮธอร์ เทพีแห่งดนตรีและความรักได้บอกกับมาร์กว่า หากที่เขาพูดเป็นความจริง ก็ถือว่าเป็นเรื่องอันตรายมากๆ และยังมีอีกหนึ่งความหวังในการหาสุสานอัมมิทโดยไม่พึ่งสคารัป จริงๆแล้วเหล่าเทพไม่รู้หรอกว่าที่ตั้งนั้นอยู่ตรงไหน แต่มีเพียงผู้เดียวที่รู้นั่นคือ ‘เมไจ เซ็นฟู’ เขาคือผู้จดพิกัดสุสานขององค์อัมมิทตั้งแต่เมื่อ 2,000 ปีก่อน ซึ่งหน้าที่หลักของมาร์กตอนนี้ต้องหาโลงศพหินของเซ็นฟูให้เจอ เพราะเป็นไปได้ว่าจะเจอสุสานขององค์อัมมิทเช่นเดียวกัน
เบาะแสแรกของโลงศพเซ็นฟู พบว่าอยู่ในตลาดมืด ซึ่งพบกับไลลาโดยบังเอิญและเธอยังรู้อีกว่ามาร์กตามหาโลงหินอยู่ และเธอก็รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน เพราะเธอทำการบ้านมาก่อนนี้แล้วว่ามันอยู่ในการครอบครองของเพื่อนเก่าเธอคนหนึ่งที่ชื่อ โมการ์ด มหาเศรษฐีหนุ่มผู้เก็บสมบัติอียิปต์โบราณไว้มากมาย หนึ่งในนั้นก็มีโลงหินเซ็นฟูอยู่ด้วย ด้วยความที่ไลลารู้จักกับเขาอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะให้เข้าไปชมโลงศพหิน
( ติดตามสปอยหนัง ภาพยนตร์ อนิเมะและวงการบันเทิงใต้เตียงดาราได้ที่ KUBET)
โลงศพเซ็นฟู
เมื่อได้พบกับโลงศพหิน มาร์กก็งงเป็นไก่ตาแตก เพราะเขาอ่านภาษาอียิปต์เหล่านี้ไม่ออก ไลลาจึงเสนอให้เขาเรียกสตีเว่นออกมาช่วยแปลแทน แต่มาร์กก็ไม่ยอม เพราะเขากลัวสตีเว่นจะไม่คืนร่างให้เขาและข้อตกลงกับคอนซูจะผิดพลาดทันที แต่ยังโชคดีที่สตีเว่นยอมช่วยแปลโดยที่ไม่ต้องสลับร่างกัน ขณะที่แกะภาษาจนเกือบจะจับพิกัดได้อยู่แล้วนั้น จู่ๆ โมการ์ดก็ได้เดินออกมาพร้อมกับอาเธอร์ที่พวกเขาได้เจรจากันแล้วว่าจะให้มากกว่าข้อตกลงของไลลาและมาร์ก
มาร์กที่เห็นท่าไม่ดีแล้วจึงแปลงร่างเป็น Moon Knight และจัดการกับลูกน้องของโมการ์ดเพื่อชิงเอาคำใบ้ออกมาจากโลงศพเซ็นฟู ก่อนพาไลลาหนีไปด้วยกัน ระหว่างที่เขาเดินทางพร้อมกับแกะรอยคำใบ้นั้น ก็งมอยู่นานจนหมดปัญญา ไลลาจึงเสนอให้เรียกสตีเว่นออกมาช่วยไขปริศนาอีกครั้ง ครั้งนี้มาร์กยอมทำตามเพราะหมดหนทางแล้ว ซึ่งสตีเว่นก็ช่วยพวกเขาประกอบคำใบ้จนรู้ว่าเป็นสัญลักษณ์ดาวดวงหนึ่ง แต่ทว่าเมื่อพวกเขานำไปสแกนตรวจในคอมพิวเตอร์กลับไม่สามารถระบุดาวดวงนี้ได้
เทพีที่ถูกจองจำ
เหตุเพราะในค่ำคืนนี้ท้องฟ้าไม่ใช่คืนเดียวกับวันที่เซ็นฟูจดบันทึกพิกัดดาวไว้ จึงอาจทำให้คลาดเคลื่อน ขณะเดียวกันคอนซูที่คอยช่วยอยู่ห่างๆก็ปรากฏกายขึ้นพร้อมเสนอตัวว่าเขาสามารถจดจำเหตุการณ์ของดาวได้ทุกค่ำคืน ไม่ว่าจะกี่แสนล้านปี ซึ่งข้อแลกเปลี่ยนของการโยกย้ายดวงดาวนี้ คอนซูจะต้องถูกจองจำ หากถึงเวลานั้นฝากมาร์กมาช่วยปลดปล่อยด้วย
หลังจากคอนซูสอนเขาโยกย้ายดาวบนท้องฟ้า ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดไปทั่วโลก ผู้คนจำนวนมากแตกตื่น เพราะมีบางกลุ่มก็คอยเฝ้ามองท้องฟ้าเช่นกัน จนเรื่องไปถึงหูเทพเจ้า พวกเขาจึงทำการจองจำคอนซูไว้ที่วิหารพีระมิด และขณะเดียวกันสตีเว่นก็หมดพลังของ Moon Knight พร้อมกับรู้ตำแหน่งที่ตั้งของสุสานอัมมิทเรียบร้อย
พวกเขารีบออกเดินทางไปยังสถานที่แห่งนั้น และก็พบว่าอาเธอร์ไปถึงก่อนแล้ว พวกเขาจึงรีบลงไปสำรวจทันที ไลลาและมาร์กแยกย้ายกันสำรวจ ไลลาได้พบกับปีศาจที่ห้องทำมัมมี่ ซึ่งมันก็พยายามจะฆ่าเธอ ไลลาได้ล่อปีศาจไปจนมันตกเหวลึก และได้พบกับอาเธอร์ ซึ่งเขาก็ได้เล่าความจริงอีกอย่างของมาร์ก ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นโจรปล้นสุสานมาก่อน และเหตุนี้เองที่ทำให้พ่อของไลลาต้องเสียชีวิต
( ติดตามสปอยหนัง ภาพยนตร์ อนิเมะและวงการบันเทิงใต้เตียงดาราได้ที่ KUBET)
มาร์กและสตีเว่นตายแล้ว
ในฝั่งของสตีเว่นเขาค้นหารูปปั้นของเทพีอัมมิทจนเจอ ไลลาที่เดินตามมาเจอเช่นกัน ก็ได้ขอคุยกับมาร์กทันทีเพื่อยืนยันว่าเขาใช่กลุ่มโจรที่ปล้นฆ่านักโบราณคดีตายหรือไม่ ซึ่งมีพ่อของเธออยู่ในนั้นด้วย มาร์กตอบไลลาว่า เรื่องจริง แต่มันค่อนข้างซับซ้อนมากและเขาก็ไม่ใช่คนฆ่าพ่อของไลลาด้วย ทันใดนั้นอาเธอร์ก็ปรากฏตัวและยิงมาร์กจนตายทันที ไลลาที่ซ่อนตัวอยู่ก็เสียใจมากที่ไม่สามารถช่วยอะไรมาร์กได้เลย
มาร์กรู้สึกตัวขึ้นมาในห้องจิตเวช ที่มีนางพยาบาลเป็นไลลาและหมอเป็นอาเธอร์ เขาวิ่งหนีออกมาหลบอยู่ห้องหนึ่งและได้พบกับสตีเว่น ซึ่งตอนนี้พวกเขามีร่างกายแยกเป็นของตนเองแล้ว ระหว่างที่พวกเขาจะหาทางออกไปด้วยกันนั้น ก็พบเข้ากับฮิปโปพูดได้ ซึ่งเธอคือ ‘เทพีเทวเล็ต’ ทำหน้าที่นำส่งดวงวิญญาณที่ตายแล้วให้ถึงฝั่ง
มาร์กยังคงไม่เชื่อคำพูดของเธอว่านี่คือเรือที่ส่งวิญญาณ จนเขาได้เปิดประตูออกไปและพบว่าอยู่บนเรือลำใหญ่ที่แล่นอยู่บนทะเลทราย เทวเล็ตได้ควักหัวใจของทั้งคู่ออกมาชั่งบนตราชั่งขนนกและบอกกับพวกเขาว่าหัวใจของเขาแกว่งแรงมาก พวกเขาจะต้องเคลียร์กันก่อนถึงประตู
พวกเขาทั้งคู่เดินเข้าไปในโรงพยาบาลและได้เห็นความทรงจำมากมาย ซึ่งพวกเขาก็ได้เข้าไปดูประตูแห่งความทรงจำบานหนึ่ง ที่นั้นเห็นมาร์กและน้องชายของเขาที่กำลังนั่งเล่นกันอยู่ วันหนึ่งมาร์กพาน้องชายไปเที่ยวถ้ำ แต่ไม่ทันรู้ตัวฝนก็ตกลงมาหนัก และทำให้ถ้ำน้ำท่วมและน้องชายของมาร์กก็เสียชีวิตในนั้น และนี่ก็เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเขา เพราะแม่ได้โทษเขาว่าเป็นคนทำน้องชายตาย
ตัดมาที่ความทรงจำของมาร์กอีกอันหนึ่ง เป็นเหตุการณ์ที่เขากำลังจะช่วยพ่อของไลลา แต่เขานั้นก็บาดเจ็บหนักเช่นกัน และขณะที่เขากำลังจะตายก็ได้พบกับเทพีคอนซู ซึ่งเขาได้ยื่นข้อเสนอว่า เขาจะยอมตายอยู่ที่นี่ หรือจะมาเป็นทายรับใช้และร่างอวตารของเขา และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้มาร์กมีพลัง Moon Knight และกลายมาเป็นร่างอวตารให้กับคอนซู
ติดตามอ่านสปอยหนัง Moon Knight [Part 3] ต่อได้ที่เว็บไซต์ KUBET City ให้คุณอัพเดทข่าวสารซีรีส์ ภาพยนตร์ อนิเมะ ข่าวบันเทิง ชีวิตดารา ข่าวดารา ซุบซิบดารา ให้คุณได้รู้จักและติดตามนักร้องและดาราที่คุณชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิดเสมือนอยู่ใต้เตียง