KUBET สปอยหนัง Childhood’s End เรื่องราวของเอเลี่ยนที่บุกโลกอย่างสันติและสร้างความสุขให้คนทั่วโลก แรกๆเหมือนจะดี แต่สุดท้ายก็ทำคนดูอกหักเมื่อสร้างเรื่องโหดร้ายไว้จนไม่อาจหวนคืน เรื่องราวจะเป็นอย่างไร สายสปอยตามไปรับชมกันเลย!
จุดเริ่มต้นและจุดจบของโลก
เริ่มต้นหนังเล่าถึงชายหนุ่มคนหนึ่ง อดีตนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ ชื่อว่า “ไมโล ร็อดดิก” เขานั่งอยู่ท่ามกลางโลกที่กำลังจะสลาย โดยเขาได้บันทึกวิดีโอผ่านโดรนตัวหนึ่งและมองรอยแผลเป็นบนมืออย่างเศร้าสร้อย
“ผมขอร้องถึงใครก็ตามที่ได้เห็นวิดีโอนี้ ผมคือคนสุดท้ายที่เหลืออยู่บนโลก มนุษย์โลกทำผิดพลาดมามาก แต่ได้โปรดอย่าลืมพวกเรา..”
ย้อนกลับไปเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในอดีตเมื่อปี 2016 ที่มีเรื่องราวทั้งสงคราม โรคระบาดและความยากจน ไมโลในวัยเด็กเติบโตในรัฐนิวยอร์กกับแม่ของเขา ขาของไมโลพิการจึงต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา แต่เขามีความฝันอันยิ่งใหญ่ที่อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ให้ได้
วันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดขึ้น เมื่อเครื่องบินทุกลำบนท้องฟ้าค่อยๆเลื่อนต่ำลงจนจอดบนพื้นดินแบบไร้สาเหตุ แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ และทุกคนในเมืองต่างก็ตกใจกับสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า นั่นคือ ยานอวกาศลำใหญ่ยักษ์ที่ลอยอยู่เหนือศีรษะผู้คนและกินพื้นที่ถึง 40 เมืองทั่วโลก แต่แล้วก็เกิดเรื่องขึ้น เมื่อบรรดาคนที่เสียชีวิตไปกลับปรากฏกลายเป็นคนจริงอีกครั้ง
โมโลได้เจอกับคุณตาที่เสียไป รวมถึงคนอื่นๆก็ได้เจอกับญาติที่เสียชีวิตเช่นกัน โดยเอเลี่ยนที่มาเยือนนั้นได้ใช้ร่างของผู้คนที่เสียชีวิตในการสื่อสารกับมนุษย์ และได้แนะนำตัวกล่าวว่า
“เขาชื่อคาเรลเรน หน้าที่ของเขาคือผู้ดูแลโลก ไม่ต้องกลัว เขามาอย่างเป็นมิตรและจะมาช่วยมนุษยชาติจากสงคราม ความอดอยาก ความเหลื่อมล้ำต่างๆ ทุกสิ่งอย่างที่เป็นทุกข์จะกลายเป็นอดีต ต่อไปจะมีแต่ความสุขและความปลอดภัย”
“ฉันรู้ว่ามันทำใจยาก แต่พวกคุณไม่ได้อยู่ตามลำพังอีกแล้ว”
หลังเอเลี่ยนพูดจบ ชาวเมืองก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี ประหนึ่งมาขายฝันนั่นเอง โดยเฉพาะกับบก.สำนักข่าวคนหนึ่งที่เขาพาดหัวข่าวพร้อมตั้งฉายาให้กับเอเลี่ยนว่า “The Overlords” ที่แปลว่า นายเหนือหัว ซึ่งเขาเชื่อว่าเอเลี่ยนพวกนี้ไม่ได้มาดีอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นไม่นาน โลกก็เริ่มเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อเหล่าเอเลี่ยนสามารถยุติสงครามทั่วโลกได้สำเร็จ ความขัดแย้งทางศาสนาก็หายไปและทุกคนก็มีแต่ความสุขอย่างน่าอัศจรรย์ โดยเหล่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐก็ถกเถียงกันใหญ่ถึงเรื่องผู้มาเยือน ซึ่งพวกเขาก็ได้ทดลองเอาเครื่องบินไปสำรวจยานอวกาศใกล้ๆ แต่ก็ไม่ได้ผล เพราะเครื่องมือทุกสิ่งบินได้ที่มนุษย์สร้างขึ้นไม่สามารถใช้งานใดๆได้เลย
( ติดตามสปอยหนัง ภาพยนตร์ อนิเมะและวงการบันเทิงใต้เตียงดาราได้ที่ KUBET)
ริกกี้นักการทูต
ริกกี้ ชายหนุ่มบ้านไร่ อีกหนึ่งตัวละครสำคัญของเรื่อง เขาถูกเอเลี่ยนจับตัวไปเจรจา โดยคาเรลเรน หรือ โอเวอร์ลอร์ด ที่มนุษย์เรียกกันอยากให้เขาช่วยเป็นทูตที่ช่วยเป็นสื่อกลางระหว่างเอเลี่ยนและมนุษย์ ซึ่งคาเรลเรนบอกว่า ริกกี้มีคุณสมบัติในการเป็นนักทูตที่ดี เพราะเขามีความกล้าหาญและมองโลกในแง่ดี แบบที่คนอื่นไม่มี และหลังจากการหายตัวไปของเขาเกิดเป็นข่าวใหญ่โต จนเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อข่าวได้มาถึงบ้านของเขาเพื่อสัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ทั้งหมด
ซึ่งบทสัมภาษณ์ของริกกี้ได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก ถึงข้อความที่โอเวอร์ลอร์ดฝากไว้ว่า พวกเขาจะเปลี่ยนแปลงโลกตามลำดับขั้นตอนเพื่อให้น่าอยู่มากขึ้นในทุกด้าน แถมยังถ่ายทอดความรู้ทุกอย่างให้กับมนุษย์อีกด้วย ซึ่งสื่อข่าวรวมถึงมนุษย์ทุกคนก็ยังไม่ไว้ใจคาเรลเรน เพราะแม้แต่หน้าตายังไม่เคยเห็นเลย แต่จะมาแทรกแซงทุกอย่าง จะให้พวกเขาเชื่อใจได้อย่างไร? และนั่นทำให้ริกกี้ต้องกลับไปเจรจากับเอเลี่ยนอีกครั้ง
ต่อมาในฝั่งของ ฮิวโก้ บก.สำนักข่าว หลังจากที่เขาได้ฟังบทสัมภาษณ์เขาก็ยิ่งมั่นใจว่าพวกเอเลี่ยนนั้นมีเล่ห์เหลี่ยม ฉลาดแกมโกง ต้องการเล่นเกมระยะยาว ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจสู้กับพวกเอเลี่ยนโดยการเขียนข่าวเชิงลบ และจัดตั้งกลุ่มต่อต้าน #freedomleague ขึ้น เพื่อรวมตัวคนที่ไม่ชอบโอเวอร์ลอร์ดเหมือนกับเขา แต่เขาก็ไม่ได้สังเกตถึงโดรนของเอเลี่ยนที่จับตาดูเขาอยู่ จากนั้นไม่นานกลุ่มต่อต้านก็ได้รวมตัวหลายล้านคนทั่วทุกมุมโลก
โดยริกกี้ได้อัพเดตสถานการณ์ทุกอย่างให้คาเรลเรนฟัง ถึงกลุ่มต่อต้านของฮิวโก้ เขายังอธิบายอีกว่าอาจเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ที่ไม่อยากถูกมนุษย์ด้วยกันปกครอง เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้าตาของเอเลี่ยน ในฝั่งคาเรลเรนก็ได้ยืนยันว่าเขาไม่ได้มีหน้าตาเหมือนมนุษย์และที่ยังไม่เปิดเผยตัวนั้น เพราะมนุษย์โลกยังไม่พร้อมในตอนนี้
โอเวอร์ลอร์ดช่วยชีวิต
ในฝั่งไมโลวัยเด็ก เขามีเพื่อนสนิทคนหนึ่งคือลุงเจนนี่ ที่เป็นเพื่อนคุยกับเขาทุกครั้งเมื่อแม่ไม่อยู่บ้าน ซึ่งแม่ของเขาไปยุ่งกับแก๊งค้ายาผิดกฎหมาย จนเขาไปเจอและได้ห้ามอันธพาลให้เลิกยุ่งกับแม่เขา จากนั้นอันธพาลจึงโมโหและควักปืนยิงใส่ไมโลจนเสียชีวิตคาวิลแชร์ แต่ทว่าจู่ๆก็มีลำแสงสีขาวสาดลงมาที่ร่างของไมโลและถูกชุบชีวิตโดยเอเลี่ยน แถมมันยังรักษาขาที่พิการให้แก่เขาด้วย ส่วนอันธพาลที่ถูกแสงสาดใส่เช่นกันก็ได้ล้มหงายหลังจนเสียชีวิต
ในฝั่งฮิวโก้ไม่รอช้าที่เขียนข่าวแต่แง่ลบของเอเลี่ยน เขาได้เขียนข่าวว่าเอเลี่ยนฆ่าพ่อค้ายาเสพติด ถึงแม้เหตุการณ์จะเป็นอุบัติเหตุก็ตาม และเขาไม่พูดถึงข้อดีของเอเลี่ยนที่ช่วยชุบชีวิตไมโลแม้แต่น้อย นอกจากนั้นเขายังลักพาตัวริกกี้เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มต่อต้าน จากนั้นก็ถกเถียงกันยกใหญ่ แต่หารู้ไม่ว่าบทสนทนาทั้งหมดของพวกเขาถูกคาเรลเรนถ่ายทอดสดให้ผู้คนดูทั่วโลก และจังหวะที่ความเห็นไม่ลงตัว ฮิวโก้จึงสั่งให้ลูกน้องฆ่าริกกี้สะ แต่ทันใดนั้นเองคาเรลเรนก็หยุดเวลาและพาริกกี้หนีออกมา
คาเรลเรนได้บอกกับริกกี้ว่าการถูกจับตัวไปของริกกี้เป็นแผนการของเขาที่จะกำจัดกลุ่มต่อต้าน และเขาจะกลับมาอีกครั้งในอนาคต และถึงตอนนั้นมนุษย์โลกจะพร้อมได้เจอเขาตัวเป็นๆแน่นอน ซึ่งก่อนที่คาเรลเรนจะจากไป ริกกี้ก็ได้แอบถ่ายผ่านกระจกไว้ ทำให้เขาได้รับรู้ร่างที่แท้จริงของคาเรลเรน และรู้สาเหตุว่าทำไมมนุษย์ถึงยังไม่พร้อมที่จะเจอกับเขา เขาได้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับกับชาวโลก
( ติดตามสปอยหนัง ภาพยนตร์ อนิเมะและวงการบันเทิงใต้เตียงดาราได้ที่ KUBET)
การปรากฏตัวของโอเวอร์ลอร์ด
เวลาผ่านไปนานถึง 15 ปี ไมโลเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ของเขาเลิกติดยา ผู้คนอาศัยอยู่อย่างมีความสุขโดยไม่แก่เฒ่าคงความหนุ่มสาวไปตลอดตามที่คาเรลเรนบอกเอาไว้ ไมโลกลับมาหาลุงเจนนี่และได้พบว่าเขาสีหน้าดีกว่าแต่ก่อน และผู้คนไม่จำเป็นต้องทำงานหาเงินกันอีกแล้ว โดยทุกคนย้ายออกจากตึกอพาร์ทเมนต์ไปอาศัยที่โล่ง ทำให้ตึกและพื้นที่แถบนี้ทั้งหมดเป็นของลุงเจนนี่
ไมโลได้บอกกับลุงเจนนี่ให้ไปร่วมดูถ่ายทอดสดด้วยกัน เพราะนี่เป็นวันสำคัญที่คาเรลเรนจะกลับมาอีกครั้ง จากนั้นทุกคนทั่วโลกก็ได้เห็นร่างที่แท้จริงของเขา ลักษณะลำตัวสูงใหญ่ เขาโค้งงอ มีปีกใหญ่ ดวงตากลมโตและร่างกายสีแดง ทำเอาทั่วโลกช็อกไปตามๆกัน เพราะคาเรลเรนหน้าตาคล้ายปีศาจอย่างมาก
ผ่านไป 4 ปีหลังการปรากฏตัวของโอเวอร์ลอร์ด ประชาชนทุกคนกลายเป็นเอกภาพหนึ่งเดียวกัน โลกสงบสุขเช่นเคย ภายใต้การปกครองและการดูแลของโอเวอร์ลอร์ด และความสุขเหล่านี้จึงทำให้ผู้คนแต่งงานมีลูกเยอะแยะมากมาย
ค้นหาความจริง
ในฝั่งไมโลเขาได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ดั่งที่ตั้งใจ และเทคโนโลยีของโอเวอร์ลอร์ดทำให้วิทยาศาสตร์หยุดการพัฒนา เพราะอย่างไรพวกเขาก็ยื่นมาเข้ามาช่วย ทำให้มนุษย์ไม่จำเป็นต้องพยายามทำอะไรเลย จนไมโลเริ่มตั้งคำถามกับการมาของโอเวอร์ลอร์ด เขาทำงานอยู่ศูนย์วิจัยแห่งหนึ่งร่วมกับเรเชลเพื่อนของเขา โดยภายใต้การดูแลของดร.บอย
แต่แล้ววันหนึ่งไมโลก็ได้ถูกไล่ออกเพราะโปรเจ็กซ์ของเขาถูกปิดลง และได้อำลากับเรเชล ทั้งยังบอกว่าจะศึกษาเกี่ยวกับโอเวอร์ลอร์ดอย่างจริงจัง ตลอด 19 ปีที่ผ่านมาคาเรลเรนไม่เคยบอกอะไรเลยเกี่ยวกับตัวเอง ทำให้ไมโลตั้งคำถามกับตัวเขาและต้องการสืบหาความจริง
ขณะเดียวกัน เด็กจากทั่วโลกก็เกิดอาการเหม่อลอยและเห็นนิมิตรแปลกประหลาด เกี่ยวกับดาวดวงหนึ่งที่เหมือนกับเปลวไฟและลำแสงสีขาว จู่ๆ บรรดาเด็กๆก็มีพลังจิตที่สามารถควบคุมทุกสิ่งอย่างได้ แถมยังรับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าอีกด้วย และนั่นทำให้เด็กสาวทารกที่เพิ่งเกิด “เจนนิเฟอร์” จากครอบครัวของเจคและเอมี่ ก็เกิดเรื่องแปลกๆโดยการส่งกระแสจิตสื่อสารกับโอเวอร์ลอร์ดได้ผ่านร่างแม่ของเธอ
ส่วนไมโลเขาค้นหาและได้พบกับสัญลักษณ์กลุ่มดาวหนึ่งชื่อ “ดาวคาริน่า” ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโอเวอร์ลอร์ด และนั่นทำให้เขากับเรเชลใกล้ชิดกันมากขึ้นจนกลายเป็นแฟนกัน
ติดตามอ่านสปอยหนัง Childhood’s End [Part 2] ต่อได้ที่เว็บไซต์ KUBET City ให้คุณอัพเดทข่าวสารซีรีส์ ภาพยนตร์ อนิเมะ ข่าวบันเทิง ชีวิตดารา ข่าวดารา ซุบซิบดารา ให้คุณได้รู้จักและติดตามนักร้องและดาราที่คุณชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิดเสมือนอยู่ใต้เตียง