เรามีสไปเดอร์แมนที่เป็นฉบับฉายโรง 3 เจเนอเรชั่นคือ Tobey Maguire, Andrew Garfield, Tom Holland ตามลำดับ สไปเดอร์แมนคนปัจจุบันก็คือ Tom Holland วันนี้พวกเราKUBET จะพาทุกคนไปรู้ในเรื่องที่คุณยังไม่เคยรู้เกี่ยวกับสไปเดอร์แมนทั้ง3คน จะเป็นเรื่องอะไร ถ้าอยากรู้แล้วไปดูกันครับ
พระเอกไอ้แมงมุมภาคแรก
ทุกคนรู้ไหมว่า Tobey Maguire ไม่เคยรู้จักสไปเดอร์แมนมาก่อน เขาไม่เคยอ่านคอมมิคหรือดูอนิเมชั่นสไปเดอร์แมนแม้แต่ครั้งเดียว สาเหตุที่เขาได้เล่นสไปเดอร์แมนนั้นก็เพราะว่าเขาได้อ่านบทหนังและชื่นชอบมาก ซึ่งในตอนนั้นทางค่ายSony ไม่เห็นด้วยกับแซม ไรมี ผู้กำกับที่จะให้โทบี้ แมกไกวร์มารับบท แต่ค่ายก็เปลี่ยนความคิดทันทีเมื่อเห็นเขาได้มาเทสหน้ากล้อง
จากชายผู้ที่ไม่เคยอ่านคอมมิคหรือรู้จักกับสไปเดอร์แมนมาก่อนกลายมาเป็นไอ้แมงมุมที่หลายคนยังคงโปรดปรานมาจนถึงทุกวันนี้ และในการเตรียมตัวเพื่อเล่นบทนี้โทบี้ แมกไกวร์ ต้องออกกำลังกายเป็นเวลา 5 เดือนและฝึกศิลปะการต่อสู้มากถึง 6 ครั้งต่อสัปดาห์ รวมไปถึงต้องกินอาหารที่มีโปรตีนสูง 4-6 มื้อต่อวัน เอาจริงกว่าจะมาเป็นพระเอกสไปเดอร์แมนนี่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ
ชุดของตัวร้าย Green Goblin
เดิมทีชุดของ Green Goblin ถูกออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่และเต็มไปด้วยเกาะเหล็ก แต่วิลเลม เดโฟ นักแสดงที่เป็นเจ้าของบทไม่ต้องการชุดแบบนั้น เขาต้องการชุดที่ผอมเพรียวและต้องการที่จะเล่นฉากแอคชั่นเองทั้งหมด ชุดที่ทุกคนเห็นในหนัง นักแสดงต้องใช้เวลาสวมนานถึง 3 ชั่วโมง รวมไปถึงฉากแอคชั่นต่างๆของก็อบลิน เป็นนักแสดงที่เล่นเองมากถึง 90% โดยที่ไม่ใช่สตั๊นแมน
เกือบได้เห็นโลแกนในสไปเดอร์แมนแล้ว
รู้ไหมครับว่าทุกคนเกือบได้เห็นการCrossover ระหว่างX-Men กับสไปเดอร์แมน เพราะฮิวจ์ แจ็คแมนนักแสดงที่รับบทเป็นวูล์ฟเวอรีน ได้เคยออกมาสัมภาษณ์หลายปีก่อนว่าเขาเคยถูกรับเชิญให้ไปถ่ายทำบทวูล์ฟเวอรีนในกองถ่ายสไปเดอร์แมน แต่สุดท้ายการที่จะเอาโลแกนมาโผล่ในสไปเดอร์แมนก็ถูกยกเลิกไป
KUBET หากเป็นไปได้ คงเป็นอีกมิติของหนังที่แฟนคลับหลายคนตั้งใจรอดูอย่างแน่นอน
ฉากที่โดนตัดทิ้งออกจากหนัง
เราเกือบได้เห็นเครื่องยิงใยในฉบับสไปเดอร์แมนในฉบับแซม ไรมี โดยได้มีการถ่ายทำฉากที่ปีเตอร์สร้างเครื่องยิงใยเอาไว้ด้วย แต่สุดท้ายผู้กำกับแซม ไรมี ได้ตัดฉากเหล่านั้นทิ้งออกไปเพราะมองว่าปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ยังเป็นแค่เด็กมัธยม ไม่มีตังค์ไปซื้ออุปกรณ์ไฮเทคมาทำ
นักแสดงขาประจำของแซม ไรมี
ในวงการภาพยนตร์ ผู้กำกับมักจะมีนักแสดงขาประจำอยู่แล้ว แซม ไรมี ผู้กำกับสไปเดอร์แมนก็เช่นกัน เขามีนักแสดงขาประจำคนหนึ่งชื่อว่า Bruce Campbell ซึ่งเป็นผู้ที่เล่นสไปเดอร์แมนทั้งสามภาค
ภาคแรก เขารับบทเป็นนักบรรยายมวยปล้ำและเป็นคนคิดชื่อสไปเดอร์แมนอย่าง “ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์” อีกด้วย
ภาคสอง เล่นเป็นคนเฝ้าประตูที่ไม่ยอมให้ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์เข้างานเนื่องจากปีเตอร์มาสาย
ภาคสาม เล่นเป็นบริกรร้านอาหารที่ปีเตอร์จะขอแมรี่ เจนแต่งงาน
และทั้งสามบทบาทนี้คนส่วนใหญ่จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามันเล่นโดยนักแสดงคนเดียวกัน
ชุดที่ไม่ง่ายของ Doctor Octopus
Alfred Molina เจ้าของบท Doctor Octopus บอกว่าตั้งแต่เขาถ่ายทำภาพยนตร์มา มีกองถ่ายสไปเดอร์แมนของแซม ไรมี ที่เป็นกลุ่มคนที่ทำงานหนักที่สุดตั้งแต่ที่เขาเคยเห็นมา และเจ้าตัวยังบอกอีกด้วยว่าเขาโดนสตั๊นแมนของทีมหลอกให้เล่นฉากแอคชั่นเองซะส่วนใหญ่ อีกทั้งหนวดเหล็กทั้ง4ที่เขาสวมใส่ในฉาก หนักถึง 75 ปอนด์และมันต้องใช้คนถึง 4 คนเพื่อให้ตัวหนวดเคลื่อนไหว
ซีนรับเชิญที่มาแบบงงๆ
เราจะเห็นนอร์แมน ออสบอร์นโผล่มาในตอนจบของสไปเดอร์แมนภาคที่สอง จริงๆแล้วในสคริปดั้งเดิม ตัวละครนี้จะไม่ได้ปรากฏออกมา สาเหตุที่เดโฟโผล่มาได้ก็เพราะว่า มีอยู่วันหนึ่งที่เขากำลังเดินกลับอปาร์ตเมนต์ เขาได้ไปเห็นนักแสดงและทีมงานที่กำลังถ่ายทำสไปเดอร์แมนกันอยู่ เขาก็ได้แวะไปเยี่ยมกองถ่าย ก่อนที่ผู้กำกับจะจับเขาแต่งตัวและถ่ายทำซีนรับเชิญ นี่ก็เป็นที่มาของตัวละครนอร์แมน ออสบอร์น ที่โผล่มาฉากจบในภาคสองนั่นเองครับ
ฉากอื่นๆ
1. ฉากจูบที่ทำให้โทบี้ แมกไกวร์เป็นไซนัสอักเสบ
2. แมรี่เจนได้รำคาญเสียงกรี๊ดของตัวเองในเรื่องสไปเดอร์แมนตั้งแต่ภาคแรกยันภาคสาม
3. ฉากที่ถ่ายทำเยอะที่สุดในสไปเดอร์แมนภาคแรก เป็นฉากที่แมรี่เจนล้ม แล้วปีเตอร์ ปาร์คเกอร์เข้าไปรับ ซีนนี้ไม่ได้ใช้CG ใดๆ แต่ทั้งหมดเป็นการถ่ายทำถึง 156 เทคเพื่อให้ได้ฉากนี้ออกมา
4. นักแสดงมวยปล้ำที่ออกมาอัดสไปเดอร์แมน แสดงโดย Randy Savage (นักมวยปล้ำจาก WWE) เพราะในวงการมวยปล้ำค่ายนั้น เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ประสบความสำเร็จมาพอสมควร
ติดตามเรื่องที่เรายังไม่เคยรู้ของสไปเดอร์แมนต่อได้ในพาร์ทที่สองได้เลยครับ
KUBET เว็บไซต์ลับความบันเทิงระดับโลก ที่นี่คุณสามารถดูข่าวบันเทิงล่าสุด ชีวิตดารา ข่าวดารา ซุบซิบดารา ฯลฯ ให้คุณได้รู้จักและติดต่อนักร้องและดาราที่คุณชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงคุณสามารถอัปเดตหนังดัง ที่มาที่ไป เบื้องลึกเบื้องหลัง ของหนังหรือการ์ตูนที่คุณชื่นชอบได้ที่นี่เลย