KUBET พาย้อนดูประวัติศาสตร์ของสตูดิโอคนบ้า Madhouse ที่พาอนิเมะญี่ปุ่นโด่งดังไปทั่วโลก จากค่ายที่ปั้นผู้กำกับมือทองระดับตำนานสู่การขาดทุนยับจนวงแตกแต่ก็ยังอยู่ในวงการไม่จากหายไป เกิดดราม่าอะไรขึ้นกับพวกเขากันแน่? ตามไปดูกันเลย
ประวัติสตูดิโอ MADHOUSE
แมดเฮาส์ (Madhouse) สตูดิโออนิเมะชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นที่สร้างชื่อเสียงให้กับวงการอุตสาหกรรมอนิเมชันจนโด่งดังไปทั่วโลก ก่อตั้งวันที่ 17 ตุลาคม 1972 โดยสมาชิก 4 คน มาซาโอะ มารูยามะ, โอซามุ เดซากิ, Rintaro, โยชิอากิ คาวาจิริ ที่แยกตัวออกมาจากบริษัท มุชิโปรดักชัน
จุดเริ่มต้นสตูดิโอ
ในอดีตปี 1961 สมัยนั้นยังไม่มีสตูดิโอแมดเฮาส์ที่เรารู้จักกัน ในช่วงนั้นมีเพียงนักสร้างมังงะในตำนานอย่าง เทซูกะ โอซามุ ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาของวงการการ์ตูนญี่ปุ่น เขาได้ก่อตั้งสตูดิโอหนึ่งขึ้นมาใช้ชื่อว่า มุชิโปรดักชัน ที่ได้ผลิตการ์ตูน อนิเมชันชื่อดังออกมามากมาย ซึ่งสมาชิกหลักในค่ายนี้ก็คือ มาซาโอะ มารูยามะ, โอซามุ เดซากิ, Rintaro, โยชิอากิ คาวาจิริ นั่นเอง
ต่อมาเมื่อ เทซูกะ โอซามุ ได้ออกจากมุชิโปรดักชันไปในปี 1968 เพื่อผลิตสตูดิโอของตนเองที่ชื่อว่า เทซูกะโปรดักชัน ด้วยเหตุนั้นเองก็ทำให้มุชิโปรดักชันประสบปัญหาด้านผลงาน ขาดเอกลักษณ์และความโดดเด่นไป ทำให้กระแสตอบรับแย่ลงเรื่อยๆเข้าขั้นวิกฤต ส่งผลให้พนักงานหลายคนลาออกเป็นจำนวนมากและล้มละลายในปี 1973
ทว่าก่อนการล้มละลายของมุชิโปรดักชัน ก็ได้มีการเกิดใหม่ของสองค่ายอนิเมะที่กลายเป็นตำนานบทใหม่ คือ ค่ายSunrise และ ค่าย Madhouse นั่นเอง ซึ่งสองค่ายนี้ได้ก่อตั้งขึ้นมาพร้อมกันในปี 1972
การถือกำเนิด Madhouse โดยผู้ก่อตั้งทั้ง 4 คน เป็นการนำชื่อของ มารูยามา (MA) และ เดซากิ (D) มารวมกันจนกลายเป็นชื่อสตูดิโอแห่งนี้ ส่วน House ก็มาจากบ้านเกิดของพวกเขานั่นเอง ซึ่งไม่ได้มีความหมายว่าโรงพยาบาลบ้า ตามคำแปลใน GooGle แต่อย่างใดทั้งสิ้น
(ติดตามสปอยหนัง ภาพยนตร์ อนิเมะและวงการบันเทิงใต้เตียงดาราได้ที่ KUBET)
ดราม่า MADHOUSE วงแตก
อย่างไรก็ตามแม้ผลงานของพวกเขาจะสร้างไว้ได้ดีสักเพียงไหน แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็กลับกลายเป็นว่าคุณภาพของพนักงานในบริษัทนั้นย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ใช้งานหนักอย่างกับนรกบนดิน เพราะค่าจ้างต่ำสุดๆ จนทำให้ในปี 2011 ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Madhouse อย่าง มาซาโอะ มารูยามะและสมาชิกฝีมือดีคนอื่นๆได้ลาออกจากค่ายอนิเมะแห่งนี้ไป
โดยทาง มาซาโอะ มารูยามะ ได้ก่อตั้ง MAPPA สตูดิโอด้วยตนเองในปี 2011 และใช้ระยะเวลากว่า 10 ปีในการไต่เต้าจนกลายมาเป็นสตูดิโอชั้นนำหนึ่งในตำนานที่สร้างผลงานอนิเมชันไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะ โคตรเซียนโรงเรียนพนัน (Kakegurui), อินุยาชิกิ: คุณลุงไซบอร์ก, มหาเวทย์ผนึกมาร (Jujutsu Kaisen), ผ่าพิภพไททัน ตอนจบ (Attack on Titan), มนุษย์เลื่อยยนต์ (Chainsaw Man) และอนิเมะชื่อดังอีกมากมาย
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งบุคคลที่ลาออกจาก Madhouse ก็คือ โปรดิวเซอร์มือดี Takuya Tsunoki ที่ได้ก่อตั้งสตูดิโอตนเองอีกเช่นกัน โดยใช้ชื่อว่าสตูดิโอ NUT นั่นเอง
ไม่เพียงแค่นั้นผู้กำกับมากฝีมืออย่าง เท็ตสึโร่ อารากิ ที่สร้างผลงานชื่อดังอย่าง เดธโน้ต (Death Note) เอาไว้ ก็ลาออกไปสะอย่างนั้น โดยเจ้าตัวได้ไปเข้าร่วมกับค่ายน้องใหม่อย่าง Wit สตูดิโอ
โดยทั้งสามค่ายนี้มีระยะเวลาในการก่อตั้งพร้อมๆกัน และการวงการของค่ายแมดเฮาส์ในครั้งนี้ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด เพราะสามารถสร้างสตูดิโอมากฝีมือออกมาถึง 3 สตูดิโอด้วยกัน
(ติดตามสปอยหนัง ภาพยนตร์ อนิเมะและวงการบันเทิงใต้เตียงดาราได้ที่ KUBET)
MADHOUSE ไปต่อไม่รอแล้วนะ
หลังจากยุคมืดที่ต้องเจอเหตุการณ์ที่บุคคลมากฝีมือทั้งสามลาออกไป พร้อมกับพนักงานเสาหลักจำนวนหนึ่ง ทำให้แมดเฮาส์ถึงกับเซ เกือบล้มละลาย แต่พวกเขาก็ยังคงมุ่งมั่นปั้นผลงานไปต่ออย่างไม่ลดละ และยังคงเอกลักษณ์ ความเป็นตัวเองไว้ได้ แต่ก็ไม่ได้ว่าจะปังมากมาย
จนกระทั่งการมาของอนิเมะ โนเกม โนไลฟ์ (No Game No Life) ถือว่าสร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ให้กับ Madhouse สตูดิโออย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะนอกจากพล็อตเรื่องยังสนุกน่าติดตาม ที่ชวนคนดูเข้าไปสัมผัสกับโลกแห่งเกมแล้ว ยังกำกับตัวละครได้อย่างดี ทั้งการเฉือนเหลี่ยมเฉือนคมต่างๆ งานแอคชั่นที่โคตรมันส์ ใครที่ติดตามทันในช่วงนั้น บอกเลยว่าเดาทางเนื้อเรื่องยากสุดๆ จนทำให้อนิเมะเรื่องนี้ได้กระแสตอบรับอย่างล้นหลาม และทำให้คนดูรู้จัก Madhouse มากขึ้น
นอกจากนี้ก็ยังสร้างผลงานชื่อดังระดับตำนานที่พูดชื่อไปไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน กับอนิเมะวันพันช์แมน (One Punch Man) พ่อหนุ่มหัวโล้นที่มีพละกำลังเหนือมนุษย์ ยอดฮีโร่ดาวดวงใหม่ที่มีความสามารถต่อยสัตว์ประหลาดตายได้ในหมัดเดียว พล็อตเรื่องนี้ทั้งสนุก มันส์และตลกขบขำ ครบรสสุดๆ
และผลงานทั้งหมดเหล่านี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า Madhouse นั้นเก่งมากแค่ไหน แม้จะผ่านความยากลำบากมามากมาย ทั้งการวงแตกสูญเสียเสาหลักและบุคคลากรมากฝีมือไปเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ด้วยลำแข้งของตนเองและสร้างผลงานคุณภาพอีกมากมายให้เราได้รับชมกัน และถึงแม้หลังปี 2017 มานี้จะไม่ได้มีผลงานโดดเด่น เปรี้ยงปร้าง อะไรมากมาย แต่ก็ยังคงทำผลงานคุณภาพได้ดีเช่นเคย
ผลงานอนิเมะชื่อดัง
- B บีดาแมน บาคุไกเด็น (ปี 1998 – 2000)
- การ์ดแค็ปเตอร์ซากุระ (ปี 1998 – 2000)
- ก้าวแรกสู่สังเวียน (ปี 2000 – 2002)
- เบย์เบลด ลูกข่างทะยานฟ้า (ปี 2001)
- กัปตันซึบาสะ (ปี 2001 – 2002)
- เดธโน้ต (ปี 2006)
- เดวิล เมย์ คราย Devil May Cry (ปี 2007)
- ฮันเตอร์ x ฮันเตอร์ (ปี 2011)
- โนเกม โนไลฟ์ (ปี 2014)
- โอเวอร์ลอร์ด (ปี 2015)
- วันพั้นช์แมน (ปี 2015 – 2017)
จบไปแล้วสำหรับประวัติ MADHOUSE สตูดิโออนิเมะที่ขาดทุนยับจนวงแตกแต่คุณภาพคับแก้วเช่นเคย สำหรับคออนิเมะไม่อยากพลาด! สามารถเข้ามารับชมได้ผ่านทางเว็บไซต์ KUBET City พร้อมอัพเดทข่าวสารซีรีส์ ภาพยนตร์ อนิเมะ ข่าวบันเทิง ชีวิตดารา ข่าวดารา ซุบซิบดารา ให้คุณได้รู้จักและติดตามนักร้องและดาราที่คุณชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิดเสมือนอยู่ใต้เตียง