วันนี้ทีมKUBET จะพาไปต่อกันกับพาร์ทที่สอง ในเรื่องของด้านมืดของฮอลลิวูด เบื้องลึกเบื้องหลังที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ ไปกันเลยครับ
ประวัติฮอลลิวูด
ในช่วงทศวรรษที่ 1920 เป็นยุคที่ฮอลลิวูดค่อยๆเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา โดยเฉพาะในปี 1927 ได้เกิดภาพยนตร์เรื่องหนึ่งชื่อว่า The Jazz Singer ซึ่งเรื่องนี้เป็นหมุดหมายสำคัญมากๆ ของวงการภาพยนตร์โลกเลย เนื่องจากว่านี่คือภาพยนตร์เสียงเรื่องแรกของโลก เพราะตอนที่ภาพยนตร์เกิดขึ้นมาใหม่ๆ โลกเราดูภาพยนตร์เงียบ แล้วมันก็จะเป็นภาพขาวดำเงียบๆ มีตัวหนังสือขึ้นบนจอแค่นั้นเลย แต่ The Jazz Singer เป็นเรื่องแรกที่ดูภาพไปพร้อมกับเสียงประกอบขึ้นมา จนกระทั่งเกิดศัพท์เรียกภาพยนตร์แบบใหม่นี้ว่า Talkie
ในที่สุดหลังจากที่เกิดเรื่อง The Jazz Singer ขึ้น หลังจากนั้นเพียงสองปีอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้งหมดก็เปลี่ยนไป KUBET จะว่าเป็นหนังที่บุกเบิกด้านภาพและเสียงก็ไม่ผิดนะครับ
The Jazz Singer นับว่าเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งเลยที่ทำให้วงการภาพยนตร์บูมขึ้นมา เพราะมีอะไรใหม่ๆที่แรก ที่คนอื่นไม่มีและไม่ทำกัน ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในฮอลลิวูดบูม ก็คือการเกิดระบบสตูดิโอ หรือ Studio System ระบบสตูดิโอเป็นระบบที่สมัยก่อนใช้ผลิตภาพยนตร์ เป็นระบบตั้งแต่ต้นจนจบในสตูดิโอเดียว
ก็คือตั้งแต่ผลิตเองจำหน่ายเอง ดูแลนักแสดงในสังกัดของตัวเอง ทำหนังออกมาฉายก็เป็นสตูดิโอของตัวเอง เรียกง่ายๆว่าตั้งแต่ต้นจนจบวงการหนังไม่ต้องออกจากแอลเอเลย บอกได้เลยว่าระบบสตูดิโอสมัยนั้นเป็นระบบผูกขาดไปเลย เพราะว่าคนตัดสินใจทั้งหมดตั้งแต่กระบวนการแรกยันกระบวนการสุดท้าย
ยุครุ่งเรืองของสตูดิโอ
ในยุครุ่งเรืองของสตูดิโอในสมัยนั้น จะมีสตูดิโออยู่ทั้งหมด 5สตูดิโอด้วยกัน ซึ่งในตอนนั้นถูกเรียกว่า The Big Five ได้แก่ MGM Metro Goldwyn Mayer, 20th Century Fox, RKO, Paramount และ Warner Bros Pictures หลังจากที่มี5สตูดิโอนี้ ก็มีอีก3สตูดิโอตามมา 3สตูดิโอนี้ถูกเรียกว่า The Little Three ได้แก่ Universal Studios, Columbia Pictures และ United Artists
เรากำลังจะเริ่มเข้าสู่ด้านมืดของฮอลลิวูดก็คือ ระบบสตูดิโอของฮอลลิวูดมันถูกออกแบบมาเพื่อให้มีการผลิตเยอะๆ หรือ เป็นระบบที่ออกแบบโดยเน้นปริมาณ ในเมื่อช่วงระบบสตูดิโอรุ่งเรืองมากๆ มันจึงเกิดหลายๆเรื่องขึ้นมา นับเป็นด้านมืดของฮอลลิวูด ที่เกิดขึ้นในสมัยนั้นก่อนที่จะถูกปรับเปลี่ยนและพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน
ด้านมืดฮอลลิวูด
Shirley Temple
เป็นเรื่องของดาราเด็กที่ดังที่สุดตลอดกาลคน หนึ่งในตอนนั้น โดยเธอชื่อว่า Shirley Temple เธอโด่งดังในช่วงปี1930-1940 เธอโด่งดังมากถึงขนาดที่ว่า หากใครเคยดูเรื่อง The Crown จะจำได้ว่ามีช่วงหนึ่งที่อดีตคิงเอ็ดเวิร์ดที่8 เรียกควีนเอลิซาเบธที่2ว่า Shirley Temple เป็นฉายาที่เขาตั้งใจมอบให้
Shirley Temple เป็นดาราเด็กที่โด่งดังมาก แสดงภาพยนตร์ไปหลายเรื่อง เธอได้เล่นภาพยนตร์ไปถึง 23เรื่อง แม้ว่าในช่วงนั้นเศรษฐกิจจะตกต่ำก็ตาม ผลงานการแสดงเรื่องแรกของเชอร์ลีย์ เทมเปิลเกิดขึ้นเมื่อตอนที่เธออายุเพียงสามขวบเท่านั้น โดยภาพยนตร์เรื่องนั้นมีชื่อว่า Baby Burlesque โดยหนังเรื่องนี้เป็นหนังแนวตลกสั้นๆ ในสมัยนั้นเขามองว่าการเอาเด็กมาแต่งตัวบวกกับทำกิจกรรมเหมือนผู้ใหญ่ มันเป็นเรื่องตลก ดูแล้วน่ารักน่าเอ็นดู แต่ประเด็นคือบทบาทที่เขาให้เด็กแสดงในตอนนั้น ในโลกปัจจุบันเราอาจจะคิดว่ามันจะดีหรอ?
KUBET มาถึงตรงนี้แล้วทีมงานยังพากันเอ๊ะ แล้วเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามเลยครับ
ซึ่งเรื่อง Baby Burlesque ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีเนื้อเรื่องล้อหนังฮอลลีวูดยุคเก่าๆกว่านั้นไปอีก ดังนั้นมันก็จะมีฉากโสเภณีที่กำลังยั่วยวนนักการเมือง การที่ผู้ใหญ่บางคนแสดงบางคนอาจจะมีคำถามอยู่ในหัวอยู่แล้ว แต่นี่เป็นการเอาเด็ก 3ขวบไปแสดงเป็นโสเภณียั่วยวนนักการเมือง ซึ่งนักการเมืองคนนั้นก็เป็นเด็กเช่นเดียวกัน โดยในเรื่องเชอร์ลีย์ เทมเปิล ก็จะต้องแต่งตัวโป๊ๆ ใส่เสื้อตัวเล็กๆ โดนบังคับให้เดินแบบมีจริตแบบโสเภณี แล้วต้องไปจูบปากนักแสดงเด็กอีกคนหนึ่ง
เมื่อเชอร์ลีย์ เทมเปิลโตขึ้นมา เธอได้มีการให้สัมภาษณ์กับเรื่องนี้ว่า “ในตอนที่ได้รู้จักฮอลลิวูดครั้งแรก มันคือการหากินอย่างเห็นแก่ตัวกับความไร้เดียงสาของเด็ก” เพราะว่าหลังจากเรื่อง Baby Burlesque เชอร์ลีย์ เทมเปิลก็เป็นที่รู้จักและโด่งดังขึ้นมา จึงมีเรื่องอื่นๆตามมา ยกตัวอย่างเช่นเรื่อง War Babies
จริงๆแล้วเรื่อง War Babies มันคือหนังที่เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่หนึ่งแล้วให้เด็กมาแสดงบทบาท อ่านตรงนี้แล้วคิดว่ามันจะโหดร้ายใช่ไหมครับ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย เชอร์ลีย์ เทมเปิล ได้เล่นเรื่องนี้ก็รับบทเป็นโสเภณีอีกเพราะคนชอบ บทบาทในเรื่องนี้ของเชอร์ลีย์ เทมเปิลต้องเป็นโสเภณีที่เรียกร้องความสนใจ จากเหล่าทหารผู้ชายซึ่งก็เป็นเด็กผู้ชายคนอื่นๆ โดยตามบทที่ได้รับมาเธอก็จะโดนบังคับให้ใส่เสื้อหลวมๆ ให้เห็นไหล่ แล้วก็ต้องไปเต้นยั่ว ไปจุ๊บกับเด็กผู้ชายเพื่อแลกกับลูกอม
สำหรับเราในยุคนี้แค่เห็นเด็กที่รับบทบาทไม่เหมาะสมกับวัยของพวกเขาก็รู้สึกแย่กันแล้ว แต่ยังมียิ่งกว่านี้อีก ประเด็นคือในช่วงที่เชอร์ลีย์ เทมเปิล กำลังเป็นนักแสดงเด็กที่โด่งดัง อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในตอนนั้น ยังไม่มีสิทธินักแสดงหรือสิทธิคุ้มครองใดใดโดยเฉพาะนักแสดงเด็ก ว่ากันว่า Charles Lamont ชาร์ล ลามอนต์ ที่เป็นผู้กำกับของหนังทั้ง2 เรื่องอย่าง Baby Burlesque และ War Babies ใช้วิธีโหดร้ายมากๆในการบังคับให้เชอร์ลีย์ เทมเปิล และเด็กคนอื่นๆเล่นหนัง โดยใช้วิธีที่เรียกว่าBlack Box
Black Box หรือกล่องดำ กล่องดำที่ว่าก็คือกล่องดำจริงๆที่มีขนาด 6 ฟุต โดยด้านในจะมีน้ำแข็งแท่งหนึ่งตั้งอยู่ เมื่อมีนักแสดงเด็กคนไหนที่งอแง ไม่ยอมแสดงหรือแสดงไม่ได้ดั่งใจ ก็จะถูกลงโทษโดยการให้ไปอยู่ในกล่องดำ ซึ่งเด็กก็จะต้องเลือกว่าจะยืนอยู่ในที่แคบ มืด ไปเรื่อยๆ หรือว่าจะนั่งลงไปบนแท่นน้ำแข็ง และแน่นอนว่าเชอร์ลีย์ เทมเปิล ก็เป็นหนึ่งในคนที่เคยโดนลงโทษให้เข้าไปอยู่ในกล่องดำนี้มาแล้ว แถมผู้กำกับก็ยังไปขู่นักแสดงเด็กอีกว่า เรื่องพวกนี้ห้ามไปบอกพ่อแม่เด็ดขาด
KUBET เว็บไซต์ลับความบันเทิงระดับโลก ที่นี่คุณสามารถดูข่าวบันเทิงล่าสุด ชีวิตดารา ข่าวดารา ซุบซิบดารา ฯลฯ ให้คุณได้รู้จักและติดต่อนักร้องและดาราที่คุณชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงคุณสามารถอัปเดตหนังดัง ที่มาที่ไป เบื้องลึกเบื้องหลัง ของหนังหรือการ์ตูนที่คุณชื่นชอบได้ที่นี่เลย