ต่อเนื่องจาก EP.2 ที่ KUBET ได้พูดถึงขั้นตอนการเข้าสู่เครื่อข่าย THE iCON Group แล้วนั้นก็น่าจะทำให้ใครหลายคนระวังตัวมากขึ้น หรือหันมาสังเกตตัวเองมากขึ้น ไม่ใช่แค่กับ THE iCON Group แต่คุณอาจจะเป็นเหยื่อของบริษัทลักษณะนี้อยู่ก็ได้
การขายที่ไม่ได้เน้นขายของ?
THE iCON Group ไม่ได้เน้นให้ขายของสักเท่าไหร่ จะบอกว่าขายของไม่ได้ไม่เป็นไร
ให้หาคนมาเรียนคอร์สให้ได้ก็พอ ซึ่งพอเขาไม่ได้สอนวิธีขาย สินค้ามันก็ขายไม่ออก เงินที่ลงทุนก็จมหายไป
เคสที่เกิดขึ้นช่วงโควิดมีคนยิงแอดทักมาขอเป็นเพื่อนชวนไปเรียนขายของออนไลน์ตอนนั้น ผู้เสียหายอยากมีรายได้จึงสมัครไป เสียค่าสมัคร 2,500 บาท
พอไปที่บริษัทก็เจอบอสคนหนึ่งก็อวดความร่ำรวย อวดความสำเร็จ และบอกว่าถ้าอยากเข้ามาเป็นลูกทีมอยากรวยอยากให้เปิดบิล 25,000 บาทสินค้าจะเป็นคอลลาเจนอาหารผิว
แต่พอเรียนไปแล้วก็รู้สึกว่าไม่ค่อยได้อะไรเท่าไหร่สุดท้ายก็ไม่ได้สอนให้เราขายของแต่ว่าให้เราลงเงินยิงแอดให้กับบริษัทเขาอย่างเดียวบอกว่าขายของไม่ได้ไม่เป็นไรแค่ยิงแอดแล้วหาลูกทีมมาขายแทนเราก็ได้ สรุปเคสนี้เสียไป 500,000 บาท
หลอกเป็นขบวนการ
พวกแม่ทีมที่หุ่นดีๆ ไม่ได้หุ่นดีจากพวกผลิตภัณฑ์ที่เขาขาย แต่ดีจากการเข้าคลินิก ส่วนรถที่ถ่ายรูปลงก็ไม่ได้ซื้อมาแต่เป็นของโชว์เฉยๆ และเมื่อสินค้ามันไม่ได้ผลจริงๆ ก็จะไม่มีการซื้อซ้ำ แต่รายชื่อต้องหาคนมาเติมใหม่เรื่อยๆบางเคสต้องเสียเงินทั้งสต๊อกของ และยิงแอดให้บริษัทด้วย
สรุปเป็นการเน้นหาคนเข้ามาสมัครเป็นลูกข่าย เพราะว่าเวลาสมัครเป็นลูกข่ายทางบริษัทจะได้เงิน เอาเงินค่าสมัครของลูกข่ายมาแจกจ่ายให้กับสมาชิกบนๆ นอกจากนี้ยังสามารถหลอกให้ลูกข่ายเหล่านี้ซื้อของไปสต๊อกโดยอ้างว่าจะขายได้แน่นอน
ซึ่งตัวสินค้าจริงๆ มันเป็นของประเภทอาหารเสริมโดยส่วนใหญ่ไม่ใช่ของที่มีกำลังซื้อเยอะอยู่แล้ว ส่วนมากที่เห็นยอดขายดีๆ ก็คือตัวแทนซื้อไปขายหวังเอากำไรเท่านั้น แต่ขายได้ไม่ได้ก็อีกเรื่อง
ธุรกิจที่ขายด้วยระบบตัวแทน ชาว KUBET จะสังเกตเห็นได้ว่าเขาจะชอบโฆษณาว่าดูยอดขายวันเดียว 1 ล้าน
ซึ่งของพวกนี้มีทริคอยู่ คือเขาจะผลิตของล็อตแรก ออกมาจำนวนน้อยแล้วแจกจ่ายให้กับ infu ไปรีวิวเยอะๆ
ทำให้สินค้าดูหาซื้อยาก ดูขาดตลาด ทีนี้พอเปิดจองล็อต 2 ตัวแทนก็จะแห่ไปจองล็อต 2 กัน
เพราะเข้าใจว่าสินค้านั้นมีความต้องการสูงจะต้องขายได้แน่ๆ นั่นจึงทำให้เกิดเป็นภาพแบบปิดไบเทค
แจกสินค้าให้ตัวแทนขายหมด 1 ล้านชิ้นในวันเดียว ขายหมด 2 ล้านชิ้นในวันเดียว
ซึ่งคนซื้อเป็นตัวแทนทำให้เวลาเขาเอาสินค้าไปแล้ว ขายได้ไม่ได้อันนั้นไม่ใช่ปัญหาของบริษัทแล้ว
แต่เป็นปัญหาของตัวแทนเพราะเนื่องจากมันเป็นกำลังซื้อของตัวแทนไม่ใช่ผู้บริโภค
ตัวแทนที่หมดตัวจากการถูกหลอกจากการโปรโมทสินค้าแบบนี้มีเยอะมาก เราก็เห็นเคสใหญ่ๆ ทุก 2-3 ปี ตัดภาพกลับมาที่เรื่องของ The iCon คุณพอลได้ออกมาตั้งสเตตัสพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นบอกว่า
“ตลอดระยะเวลาที่ผมทำธุรกิจขายปลีกส่งผ่านระบบตัวแทนเป็นระยะเวลา 6 ปีผมเชื่อมั่นว่าผมทำธุรกิจอย่างถูกต้องโปร่งใสมาตลอด แต่จากกระแสสังคมที่เกิดขึ้นผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่มีผู้เสียหายเกิดขึ้นเนื่องจากการทำธุรกิจกับบริษัทของผม”
“ผมได้ให้ทีมงานตรวจสอบข้อมูลปรากฏว่ามีหลายเคสที่ด่าทอบริษัททั้งที่ไม่ได้ เป็นตัวแทนจำหน่ายและมีอีกหลายเคสที่ขายของกับบริษัทแล้วได้กำไรไปเป็นจำนวนมาก แต่กลับมาต่อว่าด่าทอบริษัท หลายเคสเป็นการด่าเอาสะใจปั่นถึงขั้นว่าทำธุรกิจกับผมแล้วฆ่าตัวตายถ้าเป็นเรื่องจริงขอให้ติดต่อมาได้เลยจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่”
“ตอนนี้ไม่อยากตอบอะไรเพราะกระแสสังคมเป็นการรับข้อมูลทางเดียวจะขอเตรียมข้อมูล ทั้งหมดชี้แจงผ่านกระบวนยุติธรรมทางกฎหมายเพราะเราอยู่ใต้กฎหมายไม่ใช่กฎหมู่ หรือกระแสสังคมพร้อมพิสูจน์ตัวเองจะไม่วิ่งหนีไปไหนขอให้ทุกคนให้โอกาสผมและองค์กรขอบคุณครับ”
ผู้เกี่ยวข้อง
แล้วดาราเซเลบทั้งหลายที่เป็นข่าวอยู่คุณมิน คุณแซม และคุณกันต์ เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้? นั่นเพราะธุรกิจเครือข่ายพวกนี้จะอยู่ไม่ได้ ถ้าขาดสิ่งที่ เรียกว่าความน่าเชื่อถือการจ้างดาราเป็นพรีเซ็นเตอร์เป็นเรื่องนึงแต่ในบริษัทของ The iCon มีดารา 3 คนประกาศตัวว่าเป็นส่วนหนึ่งของทีมบริหาร
แบบที่ไม่ใช่ว่าเอาชื่อไปแปะใส่เฉยๆ แต่พวกเขา 3 คนพูดบนเวทีด้วยตัวเองเลยว่า “ฉันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว The iCon 3 คนนั้นได้แก่ บอสแซมผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ บอสมินผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร และบอสกันต์ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด
หลายคนเนี่ยมองว่าดาราพวกเนี้ยควรจะมีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วยเพราะพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการสร้างความน่าเชื่อถือ และทำให้เกิดการหลอกลวงเกิดขึ้น
และล่าสุดทางคุณแซมได้มีการให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นนี้โดยเขาบอกว่า
“ไม่ค่อยรู้เรื่องบริษัทเท่าไหร่หรอกเพราะเขาก็เพิ่งทำงานด้วยกันยังไม่ครบปีเลย เขารู้แค่ว่าบริษัทขายของออนไลน์เรารู้แค่ว่าสินค้าใช้ยังไงมีส่วนผสมอะไร”
“ส่วนเรื่องการขายอันนี้ไม่เกี่ยวกับเรา เรามีหน้าที่แค่ประชาสัมพันธ์เรื่องการขาย ไม่เกี่ยวกับเราเรื่องที่ว่าเป็นการหลอกลวงหรือเปล่า คนที่ประสบความสำเร็จก็อาจจะบอกว่าขอบคุณที่ให้โอกาส แต่คนที่ไม่สำเร็จอาจจะบอกว่าเป็นการหลอกลวงต้องหาให้เจอว่าโอกาสกับการหลอกลวงเป็นเรื่องเดียวกันไหม”
และเคยมีคนไปร้อง สคบ. ด้วยแต่ สคบ. แจ้งว่ามันเป็นเรื่องของสัญญาที่ทางผู้ร้อง เอาเงินไปลงทุนกับบริษัทเองทางบริษัทเขาก็เขียนผลประโยชน์อะไรของเขาชัดเจนอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นเรื่องเนี้ยมันอยู่นอกขอบข่ายของ 2 สคบ. แต่ว่าบอสพอลเคยได้รับรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับ สคบ. ด้วยและหลังจากเริ่มเป็นข่าวไป แม่ข่ายทั้งหลายก็บอกให้ลูกข่ายที่เคยโพสต์อวดความร่ำรวยทั้งหลายลบโพสต์ทิ้งไป
ด้านคดีความ
ส่วนด้านคดีความตอนนี้มีการตั้งศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับคดีขายตรง The iCon เรียบร้อยแล้ว ดารา นักแสดงที่ปรากฏในข่าวจะทยอยถูกเชิญมาให้ข้อมูลต่อไป
แล้วเราจะสรุปได้เลยไหมว่าเคสนี้เป็นการหลอกลวง เราว่าอาจจะไม่ได้ เพราะด้วยตัวธุรกิจเครือข่าย ด้วยการขายตรงไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฎหมาย การที่เราจะหาลูกข่าย แล้วเราจะได้ส่วนแบ่งจากการขายสินค้าของลูกข่าย ก็เป็นสิ่งที่อยู่ในกรอบของกฎหมาย
ซึ่งสามารถทำได้เช่นกันมันเลยต้องไปดูว่าวิธีที่เขาใช้ในการดึงคนเข้ามาเป็นลูกข่าย จะเข้าข่ายการหลอกลวงหรือเปล่า ซึ่งถ้ามันเข้าข่ายก็ต้องไปดูอีกว่าการหลอกลวงตรงนี้เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ เริ่มตั้งแต่ยอดพีระมิด ตั้งแต่เจ้าของเลยไหม เจ้าของเป็นคนสั่งให้ทำเลยหรือว่าเจ้าของก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร เจ้าของก็ขายเฉยๆ
หรือต้นเรื่องจะเกิดที่ชั้นของแม่ข่ายที่เป็นคนทำกันเองเป็นคนคิดวิธีนี้กันเอง ซึ่งตรงนี้มันพิสูจน์ได้ยากมาก เคสของการโฆษณาสินค้า สรรพคุณเกินจริงตรงนี้ตัดไปได้เลย
หลายคนคงจำเคสคุณกาละแมที่เชิญชวนให้คุณกินอาหารเสริมวันละ 38 ซองได้ ในเคสนี้โทษปรับแค่ 30,000 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าโทษของการโฆษณาเกินจริงในไทยเบามาก
งานนี้กวาดกำไรไปไม่รู้กี่ร้อยล้าน แต่โดนโทษปรับแบบนี้อีกสัก 10 รอบยังคุ้มเเลย สุดท้ายการอัพเดทล่าสุดก็คือตอนนี้ทางเวิร์คพอยท์สั่งระงับงานคุณกันต์ กันตถาวรพิธีกรชื่อดังไปก่อน จนกว่าจะเกิดความกระจ่างในเรื่องนี้
KUBET – เว็บไซต์ลับความบันเทิงระดับโลก ที่นี่คุณสามารถดูข่าวบันเทิงล่าสุด ชีวิตดารา ข่าวดารา ซุบซิบดารา ฯลฯ ให้คุณได้รู้จักและติดต่อนักร้องและดาราที่คุณชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิด