อย่างที่ทราบกันดีว่าศิลปินในวงการเพลงของประเทศญี่ปุ่นนั้นลึกลับ จับตัวได้ยากสุดๆ ไม่เคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง ไม่รู้จักชื่อจริงๆด้วยซ้ำ แต่กลับมีแฟนคลับทั่วโลก ซึ่งศิลปินที่ KUBET พาไปรู้จักวันนี้เธอมีชื่อว่า Ado (อาโดะ) ศิลปินสาวที่โด่งดังจากการร้องเพลงประกอบอนิเมะวันพีซ เรื่องราวของเธอจะเป็นอย่างไร ตามไปดูกันเลย
สำหรับใครที่เป็นคออนิเมะเรื่องวันพีซ (One Piece) ไม่มีใครไม่รู้จักเธอคนนี้อย่างแน่นอน เพราะเธอคือผู้ขับร้องเพลงประกอบการ์ตูนเรื่องนี้ ด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลังและสไตล์การร้องที่หลากหลาย ทำให้ Ado ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วงที่ภาพยนตร์วันพีซ ลำดับที่ 15 กำลังออกฉายในปี 2022 แต่ทว่ากลับไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอ รวมถึงตัวตนทั้งหมดทั้งมวล แม้เธอจะเคยแสดงโชว์ ออกคอนเสิร์ตมาแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่เคยเปิดเผยใบหน้าเลยสักครั้ง แต่ในวันนี้แหละ KUBET จะพาไปทำความรู้จักเธอให้มากขึ้นกัน
ทำความรู้จัก ADO ศิลปินสาว J-Pop
Ado เป็นชาวโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เกิดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2002 ปัจจุบันอายุ 22 ปี อาโดะมีความสนใจในเรื่องการร้องเพลง ร้องผิดๆถูกๆมาตั้งแต่ยังเด็ก จนกระทั่งอายุ 10 ปีกว่าๆ เธอเป็นเด็กที่ขี้อายและเก็บตัว เริ่มสนใจในโปรแกรมแปลงเสียงสังเคราะห์ หรือที่เรียกกันว่า โวคาลอยด์ (Vocaloid) ที่นิยมกันในประเทศญี่ปุ่นปัจจุบัน
Ado เริ่มต้นจากการร้องเพลงในคลิปวิดีโอของคนอื่นๆ ในตอนนั้นเธอฝึกร้องโดยใช้ตู้เสื้อผ้าเป็นเครื่องอัดเสียง จากนั้นก็ได้อัพโหลดคลิปผลงานเพลงลงบนอินเตอร์เน็ต ภายใต้ชื่อ Ado พร้อมภาพประกอบเป็นตัวการ์ตูนที่ใช้เป็นตัวละครแทนตัวตนของเธอเอง ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นนักร้อง “อุไตเตะ” หรือ คำที่ใช้เรียกกลุ่มคนที่โพสต์เพลง Cover ลงในโลกออนไลน์นั่นเอง
เริ่มต้นเข้าสู่วงการเพลง
ผลงานเพลง Cover ชิ้นแรกของ Ado ก็คือเพลง Kimi no Taion ปล่อยออกมาเมื่อตอนเธอมีอายุเพียง 15 ปี หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เริ่มมีผลงานฟีเจอริ่งกับศิลปินคนอื่นๆ ขึ้นเรื่อยๆทีละนิด จนกระทั่งในปี 2020 ผลงาน Cover ของ Ado ดันไปเตะตาค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง Universal Music Japan และทำให้เธอได้เซ็นสัญญากับทางค่ายในขณะที่มีอายุแค่ 17 ปีเท่านั้น
Ado เริ่มโปรเจคแรกกับ Syudou โปรดิวเซอร์ที่ถนัดด้านการทำเพลงแนว โวคาลอยด์ (Vocaloid) จนได้เริ่มมีการเดบิวต์ซิงเกิลแรกออกมา โดยมีชื่อเพลงว่า Usseewa (อุเซวะ) ที่แปลว่า หุบปาก ซึ่งเป็นเพลงที่มีเนื้อหาเชิงวิจารณ์สิ่งที่เรียกว่าคอมมอนเซนส์ในสังคมญี่ปุ่น อีกทั้งเพลงของเธอยังโดนใจคนรุ่นใหม่อย่างมาก ถึงขั้นที่เพลงนี้ถูกยกย่องว่าเป็นเพลงชาติของวุ่ยรุ่นชาวญี่ปุ่นประจำปี 2021 เลยทีเดียว
เทรนด์ Usseewa มาแรงแซงโค้ง! เพลงอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น
หลังจากปล่อยเพลงแรกออกมา เพียงไม่กี่เดือน Ado ก็กระแสตอบรับจากยอดวิวที่มากกว่า 5 ล้านวิวบนยูทุป และเพียงในเดือนกว่าๆเท่านั้น เพลงของเธอก็ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ต Spotify Viral 50 ของประเทศญี่ปุ่นทันที
ติดตามสปอยซีรี่ย์ หนัง ภาพยนตร์ อนิเมะและวงการบันเทิงใต้เตียงดาราได้ที่ KUBET
ในปีถัดมา Ado ได้รับโอกาสในการเปิดตัวเพลง Gira Gira (กิระ กิระ) ที่ทำให้ยอดติดตามบนยูทุปของเธอพุ่งกระฉูดทะลุ 1 ล้านคน
ในปี 2021 เป็นปีที่กระแสเพลง Usseewa โด่งดังต่อเนื่องจนทำให้เธอแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับซิงเกิล Usseewa และมียอดคนดูถึง 100 ล้านครั้งบนยูทุป ติดอันดับ 1 ทั้งบน Oricon Chart และ Billboard Japan Hot 100 อีกด้วย นอกจากนี้เธอยังได้โอกาสบินลัดฟ้าไปรับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งญี่ปุ่นจากเวทีมามา จาก Mnet Asian Music Awards ที่ประเทศเกาหลีใต้
สุดปัง! กับกระแสเพลงประกอบ One Piece Film: Red
ชื่อเสียงของ Ado พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่องในปี 2022 กับการได้พากย์เสียงร้อง Uta ตัวละครจากภาพยนตร์วัชพีช ลำดับที่ 15 ที่ชื่อเรื่องว่าวันพีซ ฟิล์ม เรด (One Piece Film: Red) ที่ฉายเข้าโรงภาพยนตร์ไปเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2022 ซึ่งเธอได้ออกซิงเกิลเพลงประกอบที่ชื่อว่า Uta Song One Piece Film: Red อีกด้วย และแล้วน้ำเสียงทรงพลังของเธอก็ได้เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในจุดเด่นของอนิเมะเรื่องนี้
รวมถึง New Genesis ก็เป็นเพลงญี่ปุ่นเพลงแรกที่สามารถขึ้นไปติดชาร์ตอันดับที่ 1 ของ Global Top 100 บน Apple Music และเอาชนะเพลงของบียอนเซ่ (Beyonce) ที่เพิ่งปล่อยเพลงในช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกันอีกด้วย
New Genesis กลายเป็นเพลงญี่ปุ่นที่ทำยอด 100 ล้านวิวบนยูทุปเร็วที่สุดเป็นอันดับที่ 4 โดยในปีเดียวกันนี้ Ado ยังปล่อยเดบิวต์อัลบั้มที่มีชื่อว่า Kyogen ออกมา ซึ่งเป็นอัลบั้มที่รวบรวมเพลงฮิตของเธออีก 6 เพลงใหม่ไว้ด้วยกัน ทั้งยังถูกหยิบออกไปเป็นเพลงประกอบซีรี่ย์ดังๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพลง Motherland ที่ถูกสถานีโทรทัศน์ TBS นำไปใช้เป็นซีนประกอบการถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ปี 2022
กระแสความร้อนแรงของอัลบั้ม Kyogen ฮอตฮิตอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงสัปดาห์แรกก็สามารถขึ้นไปอยู่อันดับที่ 1 ในทุกชาร์ต และยังทำยอดขายเกิน 1 แสนแผ่น จนทำให้ Ado กลายเป็นศิลปินหญิงคนเดียวที่ขายอัลบั้มได้เกินแสนแผ่นภายในระยะเวลาอันสั้นในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา
ติดตามสปอยซีรี่ย์ หนัง ภาพยนตร์ อนิเมะและวงการบันเทิงใต้เตียงดาราได้ที่ KUBET
ล่าสุดในปี 2023 Ado ได้ตอกย้ำความนิยมในวงกว้างของเธอกับการฟีเจอริ่งกับศิลปิน K-pop มาแรงอย่างเลเซราฟิม (LE SSERAFIM) ในเพลงที่มีชื่อว่า Unforgiven เวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น รวมทั้งเพลง Kura Kura ของเธอยังถูกนำไปประกอบเป็นเพลงอนิเมะเรื่อง SPY x Family 2
โปรเจคฟิล์มฮาโลวีนของ Universal Studio Japan ก็ยังมีเพลง Show ของเธอเป็นเพลงฟิล์มประจำอีเวนต์ และกลายเป็นเทรนด์มาแรงในประเทศญี่ปุ่นขณะนั้น
ADO First World Tour “Wish”
นอกจากนี้ Ado ยังได้ประกาศ World Tour เป็นครั้งแรกในวันเกิดของตนเอง เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2023 ที่ผ่านมากับคอนเสิร์ตที่มีชื่อว่า Wish หรือ ก่อนหน้านั้นเธอเคยทัวร์คอนเสิร์ตในประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว มากกว่า 10 รอบ โดยคอนเสิร์ต Wish จัดขึ้นทั้งในทวีปอเมริกา ยุโรป รวมถึงเอเชีย โดยมีประเทศไทยเป็นประเทศแรกของทัวร์ครั้งนี้ ซึ่งทัวร์ของเธอจะจัดวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2024 ณ สถานที่ Thunder Dome ที่ผ่านมานี้เอง แถมบัตรยังขายหมดเกลี้ยงภายในเวลา 6 ชั่วโมง บอกเลยว่าบรรยากาศภายในคอนเสิร์ตมีแฟนคลับชาวไทยเยอะสุดๆ
ทั้งนี้ภายในคอนเสิร์ตของเธอ ผู้ชมทั่วโลกต่างได้เห็นเพียงเงาของ Ado เท่านั้น แฟนเคยูทุกคนลองนึกสภาพตามสิ ไม่คิดว่าวงการเพลงไหนจะสุดโต่งได้เท่าประเทศญี่ปุ่นได้อีกแล้ว แต่การที่เธอมีลักษณะนิสัยขี้อายและประหม่าตลอดเวลา การปกปิดตัวตนนั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด แถมแฟนทั่วโลกยังพร้อมใจแย่งชิงตั๋วเพื่อไปชมเพียงเงาและน้ำเสียงของเธอเท่านั้น เรียกได้ว่าการปรากฏตัวของเธอนั้นได้สร้างแรงสะเทือนให้กับวงการเพลงยุคใหม่อย่างน่าเหลือเชือ
และนี่ก็คือเรื่องราวของศิลปินสาวที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่สุดฮือฮาให้กับแฟนคลับทั่วโลก ที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งหน้าตาที่แท้จริง รู้จักแต่เพียงผลงานเพลงและน้ำเสียงของเธอเท่านั้น แต่กลับได้ผลตอบรับเกินคาด สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆผ่านทางเว็บไซต์ KUBET City ที่จะให้คุณอัพเดทข่าวสารละครไทย ซีรี่ย์ ภาพยนตร์ อนิเมะ ข่าวบันเทิง ชีวิตดารา ข่าวดารา ซุบซิบดารา ให้คุณได้รู้จักและติดตามนักร้องและดาราที่คุณชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิดเสมือนอยู่ใต้เตียง พร้อมรับชมภาพยนตร์ทั้งในและนอกประเทศมากกว่า 1,000 เรื่องอย่างจุใจตลอด 24 ชั่วโมง