หนึ่งในนางเอกที่ฮอลลีวูดที่คุณต้องนึกถึง มีชื่อเอ็มมา สโตนอยู่แน่นอน จากพาร์ทที่แล้วเราจะเห็นในความพยายามของเธอที่จะเป็นนักแสดง และเธอก็สามารถเข้าสู่วงการเข้ามาได้วันนี้ KUBET จะพาทุกคนไปดูกันครับว่า ผลงานของเขาจะเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้ชมขนาดไหน
ผลงานของเอ็มมา เริ่มเข้าสู่วงการ
เอ็มมา สโตน เริ่มมีผลงานจากการรับบทสมทบในหนังอีกหลายเรื่องจนกระทั่งเธอได้รับบทนำเป็นครั้งแรกในหนังตลกวัยรุ่น Easy A เธอต้องรับบทเป็นโอลีฟ สาวจืดที่โกหกสร้างเรื่อง เพื่อให้ตัวเองกลายเป็นสาวฮอตประจำโรงเรียนไฮสคูล
ด้วยการรับบทแบกหนังเรื่องนี้แทบทั้งเรื่อง ส่งผลให้เอ็มมา สโตนได้แจ้งเกิดกลายเป็นที่รู้จักอย่างเต็มตัวในฐานะดาราหน้าใหม่ และเธอต้องแลกกับการที่เธอต้องทำงานหนัก พักผ่อนน้อย แถมยังต้องเผชิญกับปัญหาส่วนตัวรวมทั้งโรคหอบหืดที่เป็นโรคประจำตัวทำให้ประสบการณ์ที่เธอมีกับหนังเรื่องนี้จึงไม่น่าประทับใจนัก
พบรักในกองถ่ายภาพยนตร์
ในปี2011 เอ็มมา สโตนเริ่มมีผลงานการแสดงที่โดดเด่นมากขึ้นเรื่อยๆ เธอได้รับบทเป็นยูจิเนียร์ ฟีแลน หรือสกีตเตอร์ ในหนังดราม่า The Help 2011 และโด่งดังยิ่งขึ้นอีกกับบทเกว็น สเตซี ในเรื่อง The Amazing Spider-Man ปี 2012 และเรื่อง The Amazing Spider-Man2 ปี 2014 ซึ่งถือเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องแรก
หนังเรื่องนี้ทำให้เธอได้ร่วมงานกับไอ้แมงมุมแอนดรูว์ การ์ฟิลด์ ด้วยเคมีที่เข้ากันทั้งในจอและนอกจอทำให้ในปี 2011 ช่วงถ่ายทำภาคแรกมีข่าวออกมาว่าทั้งคู่กำลังคบหาดูใจกัน รวมทั้งภาพความน่ารัก ขี้เล่น เฮฮาที่มักปรากฏบนสื่อบ่อยครั้ง แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้ออกมาเปิดเผยหรือพูดถึงความสัมพันธ์โดยตรงแต่ในปี 2015 มีข่าวออกมาว่าทั้งคู่ได้เลิกรากันไปแล้ว ในภายหลังการ์ฟิลด์ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าแม้จะเลิกรากันไปแล้วแต่ทั้งคู่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเรื่อยมา
KUBET จะเห็นได้ว่าเธอมีความเป็นส่วนตัวสูงมาก เธอไม่ได้เปิดเผยโจ่งแจ้ง แต่เธอก็ไม่สัมภาษณ์ใดๆเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของเธอเอง
ความปังจนรับรางวัลออสก้า
ฝีมือการแสดงของเอ็มมา สโตนถูกยกระดับไปอีกขั้นเพื่อการรับบทเป็นแซม ทอมสัน ลูกสาวดาราในหนังดราม่าสุดบ้าคลั่ง Birdman or (The Unexpected Virtue of Ignorance) โดยเธอต้องปะทะฝีมือกับนักแสดงรุ่นใหญ่ไมเคิล คีตัน และนักแสดงรุ่นกลางอย่างเอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน ซึ่งเรื่องความยากในการถ่ายทำแบบ Long Test ทำให้เอ็มมา สโตนแสดงผิดจนต้องถ่ายซ่อมหลายครั้ง แค่ฉากที่เธอเถียงกับไมเคิล คีตัน ต้องถ่ายทำมากถึง 25 เทค
ส่วนฉากพูดคุยบนดาดฟ้ากับเอ็ดเวิร์ด ต้องถ่ายทำมากถึง 30 เทค จนทำให้เธอโมโห และตัดสินใจแสดงสดไปแบบไม่ตามคิว ผลคือเธอเล่นฉากนี้ออกมาถูกใจผู้กำกับอเลฮานโดร กอนซาเลซ แถมยังส่งให้เธอเข้าชิงรางวัลออสก้าสาขาสมทบหญิงยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรกในชีวิตด้วย
เอ็มมา สโตนได้เดินทางมาถึงจุดสูงสุดของชีวิตได้สำเร็จจากการรับบทเป็นมีอา บาริสต้าผู้มีฝันอยากเป็นนักแสดงในหนังมิวสิคัล La La Land โดยเธอได้ผ่านการออดิชั่นแบบฉลุยเพราะเธอเคยแสดงร่วมกับไรอัลมาแล้วในเรื่อง Crazy, Stupid, Love 2011 และ Gangster Squad 2013 เคมีของทั้งคู่จึงไม่ต้องมีอะไรมากมาย ด้วยบทและการแสดงของทั้งสอง ส่งผลให้เอ็มมา สโตน ได้รับรางวัลออสก้าสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมมาครองได้อย่างสวยงามและได้รับการยอมรับในฐานะนักแสดงแถวหน้าของวงการ
ความพยายามและความท้าทายใหม่ๆ
อีกบทที่พิสูจน์ความทุ่มเทของเอ็มมา สโตนในการแสดงคือการรับบทเป็น อบิเกล ฮิลล์ สาวใช้เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวอย่างเรื่อง The Favorite 2018 แม้ว่าในตอนแรกผู้กำกับยอร์กอส ลานลามอส ตั้งใจอยากใช้นักแสดงอังกฤษมากกว่า แต่เมื่อเอ็มมา สโตนอ่านบทจบ เธอได้ขอแสดงในบทนี้และลงทุนฝึกสำเนียงอังกฤษอยู่หนึ่งเดือนเต็มเพื่อกลับมาออดิชั่น แถมในการแสดงเธอยอมทุ่มทุนการเล่นฉากเปลือยหน้าอกต่อหน้ากล้องเป็นครั้งแรกในชีวิต
ยิ่งรู้จักจะยิ่งเห็นความทุ่มเทและความพยายามของตัวเธอสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ติดตามเรื่องราวของเอ็มมา สโตนต่อได้ในพาร์ทที่สามกันเลยครับ
KUBET เว็บไซต์ลับความบันเทิงระดับโลก ที่นี่คุณสามารถดูข่าวบันเทิงล่าสุด ชีวิตดารา ข่าวดารา ซุบซิบดารา ฯลฯ ให้คุณได้รู้จักและติดต่อนักร้องและดาราที่คุณชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงคุณสามารถอัปเดตหนังดัง ที่มาที่ไป เบื้องลึกเบื้องหลัง ของหนังหรือการ์ตูนที่คุณชื่นชอบได้ที่นี่เลย