รวมหนังสะท้อนสังคม จากทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นการสะท้อนระบบการศึกษา สะท้อนสังคมที่พยายามจะพาเราไปสู่การหลงลืมตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง สะท้อนปัญหาสถาบันครอบครัว วันนี้ KUBET จะพาไปทำความรู้จักกับหนังเหล่านี้กัน
1.) หนังสะท้อนสังคม Final Score 365
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม การสอบแข่งขันเพื่อแย่งชิงกันเข้ามหาวิทยาลัยที่ตัวเองใฝ่ฝันหรือเข้าคณะดีๆเพื่ออนาคต ซึ่งหนังเรื่อง Final Score 365 เป็นหนังที่ตามติดชีวิตเด็กมัธยมเทอมสุดท้ายของการเรียน ม.6 ที่เตรียมตัวจะสอบเอนทรานซ์ โดยหนังเรื่องนี้ได้สะท้อนระบบการศึกษาที่เด็กๆต้องแบกรับความเครียดจนเกินไปแต่หนังก็พยายามจะหาของความสนุกของความเครียดเหล่านี้ออกมาเป็นอยู่แบบที่ได้อยู่กับเพื่อนได้ช่วยกันพากันติวหนังสือ
แต่หนังยังไม่เล่าถึงความเหนื่อยล้าในการพยายามต้องอ่านหนังสือเพื่อที่จะติดมหาวิทยาลัยในฝันให้ได้แต่ประเด็นหลักๆมันก็โผล่ขึ้นมาอีกว่าเด็กบางคนก็ไม่รู้และสับสนว่าตัวเองชอบหรืออยากเห็นอะไรในอนาคต ไม่รู้ว่าต้องอ่านหนังสือทำไมรู้เพียงแค่ทำๆตามคนอื่นไปแค่นั้นซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นหนังไทยที่ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว
2.) หนังสะท้อนสังคม Mean girls
เป็นหนังที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังถูกคุยถึงอยู่เสมอๆ หนังเรื่องMean girls ได้สะท้อนสังคมไฮสคูลของอเมริกา ที่สภาพแวดล้อมทุกคนต้องเอาตัวรอด แย่งชิง นินทาว่าร้าย ชิงดีชิงเด่น และ กลั่นแกล้งกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง เคดี้ สาวผู้ย้ายมาจากแอฟริกาใต้ได้มาเข้าโรงเรียนนี้ทำให้เธอได้เห็นอะไรหลายๆอย่างในโรงเรียนนี้ทำให้ความไร้เดียงสาของเธอค่อยๆจางหายไปเรื่อยๆ- BY KUBET MOVIE
3.) หนังสะท้อนสังคม The Hunger Games
เป็นหนนังสะท้อนสังคมที่ดีมากๆอีกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ โลกของThe Hunger Games เต็มไปด้วยการกดขี่ เอารัดเอาเปรียบทุกวิถีทางที่จะทำให้คนชนชั้นสูงได้กินดีอยู่ดี และมันยิ่งเลวร้ายไปกันใหญ่เมื่อคนชนสูงพยายามหาเหตุผลมากมายที่ต้องการให้คนชนชั้นแรงงานส่งตัวแทนมาสู้กันและจะมีคนที่รอดเพียงคนเดียวเท่านั้น ทำไมพวกเขาต้องทำนั้นคำตอบมันไม่ได้ยากเลยเพียงเพราะพวกเขาต้องการตอบสนองความบันเทิงให้ตัวเองเท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตามหนังเรื่องนี้ยังได้เสนออีกมุมมองหนึ่งขึ้นมา คือการต่อสู้กับความอยุติธรรมอย่างกล้าหาญมันอาจจะเป็นทางเดียวที่จะพาให้ทุกคนกลับมายืนได้อีกครั้งไม่ว่าจะแรกมาด้วยอะไรก็ตามไม่ว่าต้องใช้เวลายาวนานขนาดไหนพวกเขาก็พร้อมที่จะลุกขึ้นสู้อีกครั้งและนี่มันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่คนชนสูงจะมากดขี่เราได้อีก
4.) หนังสะท้อนสังคม Boyhood
ถือเป็นหนังที่น่าจะใช้เวลาถ่ายทำนานที่สุดแล้ว ใช้เวลาไปถึง 12 ปีด้วยกัน กับการเฝ้าดูการเติบโตของ เมสัน เด็กน้อยวัย 6 ขวบที่ได้รับผลกระทบกับการแย่งทางกันของพ่อและแม่ โดยที่ตนเองต้องมากับผู้เป็นโดยมีการไปหาพ่อบ้างในบางครั้ง การเติบโต และใช้ชีวิตของเมสันจะต้องผ่านเรื่องราวมากมาย ก่อนหนังจะเล่าถึงเมสันที่อายุ 18 ปี ซึ่งหนังเรื่องนี้ใช้นักแสดงคนเดิมทั้งหมดในการถ่ายทำมันขึ้นมา
หนังเรื่อง Boyhood จึงเป็นหนังสะท้อนสถาบันครอบครัวที่ดีที่สุดของการตัดสินใจแยกทางกันของพ่อและแม่ว่าแค่การตัดสินใจเลิกกันมันสามารถสร้างบาดแผลภายในจิตใจให้กับลูกๆของพวกเขาไปตลอดกาล
5.) หนังสะท้อนสังคม Spirited away
Spirited away เป็นแอนิเมชัน ที่ครองใจคนทั่วโลกเพราะรูปแบบที่นำเสนอดูเข้าใจง่ายแต่แฝงได้ด้วยข้อคิดและมุมมองที่สะท้อนปัญหามากมายในปัจจุบันโดยเรื่องราวได้เล่าถึง จิฮิโระ เด็กสาวที่หลงเข้าไปในมิติประหลาด เธอต้องเผชิญกับอันตราย และทำงานหนักเพื่อเอาตัวรอด
โดยระหว่างทางเธอก็ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ๆมากมาย แต่จิฮิโระก็อยากจะกลับไปโลกเดิมของเขาเช่นกันการทำงานหนักและบีบบังคับให้ทำมันเป็นส่วนหนึ่งในการเอาชีวิตรอดในมิตินั้นซึ่งเธอเองก็ค่อยๆหลงลืมตัวตนของเธอไปอย่างช้าๆๆกับมิติแหล่งนี้
เป็นยังไงกันบ้างกับหนังสะท้อนสังคม 5 เรื่องแรกใครชอบเรื่องไหนก็สามารถเข้ามาดูได้ที่ KUBET น้าหนังดีๆแบบนี้ใครไม่ดูถือว่าพลาดนะบอกก่อนถ้าใครยังไม่ถูกใจกับหนังห้าเรื่องนี้ไปต่อกันอีกห้าเรื่องสุดท้ายต้องถูกใจคุณอย่างแน่นอน