สวัสดีครับ หากพูดถึงดิสนีย์ เชื่อว่าหลายคนต่างก็นึกถึงการ์ตูน ภาพยนตร์ หรือบางคนอาจจะนึกถึงสถานที่ที่มีเครื่องเล่นหวาดเสียวมากมาย แต่เนื้อหาในวันนี้จะเกี่ยวกับภาพยนตร์ของดิสนีย์ ที่มีออกมาให้เราได้ดู ได้ชมกันมากมาย มีทั้งทำเงินมหาศาล และขาดทุนยับเยิน วันนี้KUBETเราจะมาเล่ากันต่อในเรื่องหนังของดิสนีย์ที่ขาดทุน โดยเนื้อหาจะต่อจากพาร์ทที่แล้ว จะเป็นเรื่องอะไรกันบ้าง ตามไปดูกันเลยครับ
Jungle Cruise 2021
Jungle Cruise 2021 หนึ่งในภาพยนตร์ที่สร้างจากเครื่องเล่นของดิสนีย์แลนด์ แถมยังมีนักแสดงชื่อดังอย่าง ดเวย์น จอห์นสัน และ เอมิลี่ บลันต์ มาร่วมแสดงนำอีกด้วย กับเรื่องราวของ ดร.ลิลลี่ นักสำรวจที่ตัดสินใจออกเดินทางจากลอนดอนสู่ป่าอเมซอนพร้อมว่าจ้างกัปตันแฟรงค์วูฟให้พาเธอขึ้นเรือผจญภัยไปเรื่อยๆในน่านน้ำที่อันตรายสุดๆของป่าแห่งนี้ โดยลิลลี่จะมีเป้าหมายในการออกเดินทางตามหาต้นไม้ในตำนานที่สามารถรักษาโรคหายยากได้
แต่ยิ่งเธอถลำเข้าไปในป่าลึกมากแค่ไหน เธอและแฟรงค์ก็พบว่าป่านี้มันแสนจะอันตรายและเต็มไปด้วยอุปสรรคสุดน่ากลัวรออยู่ ซึ่งนี่ก็เหมือนจะเป็นการเดินหมากที่ผิดของดิสนีย์อีกแล้ว เพราะชื่อของนักแสดงกับเรื่องราวของมัน ไม่ได้สร้างกระแสให้ผู้ชมตื่นเต้นเลยแม้แต่นิด แถมผลภาพยนตร์ก็เปิดตัวได้แย่มากๆ อีกทั้งยังมีปัญหาของโรคระบาดเข้ามาเกี่ยวข้องอีก ภาพยนตร์จึงทำเงินไปทั่วโลกได้แค่ประมาณ120ล้านดอลลาร์ จากทุนสร้างประมาณ200ล้านดอลลาร์ ขาดทุนยับในช่วงโควิด แถมยังไม่สามารถจุดกระแสอะไรได้เลย
Turning Red 2021
Turning Red 2021 ผลงานของผู้กำกับหญิงอย่างโตมี ชื่อ ซึ่งเคยกำกับอนิเมชั่นขนาดสั้นอย่างเรื่องBao โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของเหมยลินเด็กนักเรียนชาวจีนแคนาดาอายุ13ปี ที่อาศัยอยู่โตรอนโต เธอกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านที่จะเป็นวัยรุ่น เพื่อเรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง แต่โชคชะตาก็ดันทำให้เธอต้องคำสาปปริศนากลายเป็นหมีขนาดใหญ่ ที่เมื่อเวลาหัวใจเธอเต้นแรงทีไร ตัวของเธอก็จะเปลี่ยนสีแดงมากขึ้นเรื่อยๆ เธอจึงต้องหาทางแก้ไขทุกอย่าง และหาทางแก้ไขคำสาปให้ได้ ก่อนที่ชีวิตของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปหนักมากกว่านี้
ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถเล่าเรื่องราวของเนื้อหาได้ออกมาดีเลยทีเดียว จนกลายเป็นงานที่นักวิจารย์กับผู้ชมชื่นชอบมากในระดับที่บอกเล่ากันปากต่อปาก แต่ปัญหาก็คือการวางแผนฉายในโรงภาพยนตร์กับฉายแบบสตรีมมิ่งที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ของดิสนีย์ ดันส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีปัญหาในการสร้างรายได้ เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ทำเงินทั่วโลกไปได้ประมาณ 20 ล้านดอลลาร์ จากทุนสร้าง175ล้านดอลลาร์
KUBET เรียกได้ว่าขาดทุนยับเยินเป็นประวัติการณ์ ขัดแย้งกับคุณภาพของตัวงานกันเลยครับ
Tomorrowland 2015
ดูเหมือนในช่วงนั้น ดิสนีย์พยายามสร้างภาพยนตร์หลายแบบ และให้แตกต่างกันออกมา โดยหวังจะเจาะกระแสหลักให้มากกว่าเดิม ด้วยเนื้อเรื่องที่หวังให้ผู้ชมสนใจทันทีที่เห็นตัวอย่าง Tomorrowland ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างเหล่านั้น กับเรื่องราวของแฟรงค์ อดีตเด็กอัจฉริยะที่ตอนนี้ชีวิตของเขาได้ล่วงเลยมาถึงช่วงวัยกลางคนที่หลายๆอย่างก็ไม่เหมือนเดิมไปแล้ว
แต่ความฝันของเขาก็ได้ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อแฟรงค์ได้พบกับเคซี่ สาวน้อยสุดฉลาดและมองโลกในแง่ดีสุดๆ ก่อนที่ทั้งสองจะเข้าไปผจญภัยในเมืองลึกลับที่ตั้งเหนือกาลเวลาที่คนอื่นจะเข้าใจ ดินแดนแห่งนั้นคือ Tomorrowland นั่นเอง ทั้งสองจึงต้องแก้ไขปริศนาในดินแดนอันลึกลับนี้และเดินทางออกมาให้ได้ก่อนที่โลกจะต้องพบกับจุดจบบางอย่าง
ความน่าสนใจของภาพยนตร์
ความน่าสนใจของภาพยนตร์นอกจากจะเป็นการดัดแปลงมาจากชื่อเครื่องเล่นของดิสนีย์แลนด์แล้ว ภาพยนตร์ก็ได้ทั้งจอร์จ คลูนีย์ และผู้กำกับอย่างแบดเบิร์ดผู้อยู่เบื้องหลังThe Incredibles, The Iron Giant, Ratatouille and Mission Impossible 4 มาร่วมงานด้วย
แต่หนึ่งปัญหาที่ดิสนีย์ยังแก้ไม่ตกคือการตีความเรื่องราวจากเครื่องเล่น และเรื่องราวของบทออกมาเป็นภาพยนตร์ เพราะเนื้อหายังมีปัญหาในการเจาะตลาดหลักและไม่สามารถมีเนื้อเรื่องและแบล็กกราวที่กลมกล่อมได้ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงทำรายได้ไปทั่วโลกอยู่ที่ 209 ล้านดอลลาร์ จากทุนสร้าง190ล้านดอลลาร์
ติดตามภาพยนตร์ที่ขาดทุนของค่ายดิสนีย์กันต่อได้ในพาร์ทที่3 กันเลยครับ
KUBET เว็บไซต์ลับความบันเทิงระดับโลก ที่นี่คุณสามารถดูข่าวบันเทิงล่าสุด ชีวิตดารา ข่าวดารา ซุบซิบดารา ฯลฯ ให้คุณได้รู้จักและติดต่อนักร้องและดาราที่คุณชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงคุณสามารถอัปเดตหนังดัง ที่มาที่ไป เบื้องลึกเบื้องหลัง ของหนังหรือการ์ตูนที่คุณชื่นชอบได้ที่นี่เลย