สัตว์หางในนารูโตะเป็นสัตว์ที่มีพลังมากที่สุดในโลกนินจาใครที่ได้ครอบครองมักจะเป็นนินจาที่มีพลังหรือความสามารถพิเศษกว่านินจาคนอื่นๆ โดยใครที่เป็นแฟนพันธ์ุแท้อนิเมะเรื่องนารูโตะห้ามพลาดเด็ดขาดจะมีพลังสถิตตัวไหนบ้าง KUBET จะพาไปดูกันเลย
10 สัตว์หางพลังสถิตร่างในอนิเมะเรื่องนารูโตะ
ใครเคยสงสัยไหมว่าสัตว์หางหรือพลังสถิตร่างนั้นทำไมเหล่านินจาถึงต้องการกันมากมายขนาดนั้นเพราะพลังของถูกซ่อนอยู่หรือเปล่าโดยใครที่เป็นผู้ครอบครองสัตว์หางเหล่านี้มักจะมีพลังพิเศษกว่าคนอื่นในโลกนินจาทำให้สัตว์หางเป็นที่ต้องการของกลุ่มที่ต้องการแสวงหาผลประโยชน์อย่างแสงอุษาที่ต้องการรวบรวมสัตว์หางทั้งหมดเพื่อที่จะสร้างพลังสถิตร่างตัวใหม่ขึ้นมาที่มีพลังแข็งแกร่งกว่าทุกตัวนั้นเอง
สัตว์หางแต่ละตัวจะมีความสามารถและพลังที่แตกต่างกันออกไปโดยเชื่อกันว่าสัตว์หางที่ยิ่งมีจำนวนหางเยอะก็มักจะมีพลังที่แข็งแกร่งเยอะตามได้ด้วย โดยการได้ครอบครองสัตว์หางนั้นไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะได้มันมาส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ถูกเลือกและมักจะเป็นนินจาที่เดียวดายที่สุดในเรื่องเพราะสัตว์หางก่อนที่จะโดนผนึกในตัวของนินจาก็มักจะทำเรื่องเลวร้ายมาทั้งนั้นทำให้ใครที่ได้ครอบครองก็จะโดนเหมารวมว่าเป็นคนที่ชั่วร้ายนั้นเอง
มาดูกันว่าสัตว์ทั้ง 10 ตัวนี้จะมีความเป็นเจ้าของและมีความสามารถเฉพาะตัวด้านใดบ้างและปัจจุบันสัตว์หางอยู่ที่ใครบ้างแล้วใครที่อยากรู้ตามมาดูกันได้เลย
1.) สัตว์หางหนึ่งหาง ชูคาคุ (One Tail – Shukaku)
สัตว์หางตัวที่หนึ่งมีชื่อว่า ชูคาคุ หรือ ที่หลายคนรู้จักกันในนามภูตทราย โดยความสามารถของสัตว์หางตัวนี้คือการควบคุมทราย โดยส่วนใหญ่สัตว์หางมักจะมีความสามารถในการใช้คาถาสะกดหรือคาถาผนึกเป็นที่สุด โดยภูตทรายตัวนี้เคยอาศัยอยู่ที่แคว้นคาเสะโนะคุนิ ซึ่งวิชาคาถาอยู่ในอันดับที่ 8 และมีปริมาณจักระอยู่ในอันดับที่ 9 อีกด้วย
โดยพลังสถิตนี้อยู่ในร่างของ กาอาระ คาเสะคาเงะรุ่นที่ 5 ซึ่งปัจจุบันโดนกลุ่มแสงอุษาชิงชูคาคุไปแล้ว คนที่ชิงไปคือ ซาโซริและ เดอิดาระ ที่ใช้วิชาผนึก เก้าวิถีมังกรมายา เพื่อแย่งไปแต่โชคดีของ กาอาระ ที่ไม่ได้ตายเพราะย่าจิโยะใช้วิชาย้ายชีวิตเพื่อช่วยชีวิตของเขาเอาไว้
*ปล.ถ้าเมื่อไหร่ที่พลังสถิต(สัตว์)โดนแยกไปจากร่างกายของคนที่ครอบครองอยู่คนนั้นจะต้องตาย
พลังธรรมชาติของสัตว์หางคือ ลม ดิน และแม่เหล็ก เป็นสัตว์หางที่มีจำนวนหางทั้งหมด 1 หาง โดยก่อนหน้าที่สัตว์หางตัวนี้จะมาอยู่กับ กาอาระ มันได้ไปอยู่กับคนอื่นมาก่อนคือ ร่างสถิตคนแรก บุนพุคุ เป็นพระรูปหนึ่ง ที่ถูกบังคับในเป็นร่างในสัตว์หางตั้งแต่เด็ก ร่างสถิตคนที่สอง คือ ยังไม่มีการเล่าในเรื่องที่แน่ชัดแต่มีการกล่าวถึงย่าจิโยะ ร่างสถิตคนสุดท้ายคือ กาอาระ คาเสะคาเงะรุ่นที่ 5 นั้นเอง
2.) สัตว์หางสองหาง มาทาทาบิ (Two Tail – Nekomata)
เป็นสัตว์หางที่มีรูปร่างคล้ายๆแมวโดยเป็นแมวที่มี 2 หางลักษณะเหมือนตำนานโบราณปีศาจแมวสองหางเนะโกะมะตะ เป็นพลังสถิตที่เป็นเจ้าของโลกวิญญาณ มีพลังโจมตีในรูปแบบไฟกับการโจมตีในความมืด จักระอยู่ในอันดับที่ 8 ความแข็งแกร่งอยู่ในอันดับที่ 4
พลังธรรมชาติของสัตว์หางคือ ไฟ โดยพลังสถิตร่างในปัจจุบันคือ นิอิ ยูกิโตะ แห่งหมู่บ้านคุดมะงาคุเระ และก็ดันโดนกลุ่มแสงอุษาชิงสัตว์หายไปแล้ว ซึ่งพลังสถิตก่อนหน้านี้หรือรุ่นก่อนๆในเรื่องไม่มีการกล่าวถึง
3.) สัตว์หางสามหาง อิโชบุ (Three Tails – Isonade)
เป็นสัตว์หางที่มีการผสมผสานระหว่างกระดองเต่าและหอยเม่น เป็นปีศาจหอย การต่อสู้เน้นสู้กันในน้ำเป็นหลัก โดยความสามารถของอิโชบุจะเป็นการควบคุมน้ำและสร้างม่านพิษเป็นหลักจักระอยู่ในอันดับ 7 ความแข็งแกร่งอยู่ในอันดับ 6 ร่างสถิตปัจจุบันไม่มีเพราะ มิซึคาเงะรุ่นที่ 4 เสียชีวิตทำให้สัตว์หางถูกปลดปล่อย แต่สุดท้ายก็ถูกกลุ่มแสงอุษาชิงตัวไปครอบครองจนได้- BY KUBET CARTOON
4.) สัตว์หางสี่หาง ซุนโกคู (Four Tails – Sokou)
สัตว์หางสี่หางที่ลักษณะเป็นกอริลายักษ์ ใช้พลังธรรมชาติคือ ดิน ไฟ ของเหลว พิษ โดยสถิตร่างคนล่าสุดคือ โรชิ แห่งหมู่บ้านอิวะงาคุเระ ผู้ที่ได้ออกเดินทางตามหาสัตว์หางที่เหมาะกับตัวเองจนได้มาเจอ ซุนโกคู แต่ปัจจุบันได้โดนชิงไปโดยกลุ่มแสงอุษา (อิทาจิและคิซาแมะ)เสียชีวิตแล้ว ร่างสถิตก่อนหานี้เรื่องไม่ได้กล่าวถึง
5.) สัตว์หางห้าหาง โคคุโอ (Five Tails – Houkou)
สัตว์หางตัวนี้คือ โคคุโอที่มี ลักษณะคล้ายม้าที่มีเขา โดยคนมักจะเรียกกันว่าปีศาจม้าห้าหาง เป็นเทพแห่งการสร้างภาพหลวงตาและมีความสามารถควบคุมพฤกษาในการต่อสู้ จักระอยู่ในอันดับ 5 ความแข็งแกร่งอยู่ในอันดับ 3 พลังธรรมชาติของโคคุโอคือธาตุทั้ง 5 พลังสถิตร่างคนล่าสุดคือ ฮานแห่งหมู่บ้านอิวะงาคุเระ ปัจจุบันโดยชิงสัตว์หางไปแล้วโดยใครไม่รู้ ร่างสถิตก่อนหน้านี้ไม่มีระบุในเรื่อง
จบไปแล้วกับสัตว์หางทั้ง 5 ตัวของอนิเมะเรื่องนารูโตะแต่ยังคงเหลืออีก 5 ตัวซึ่งจะเป็นตัวไหนและมีพลังอะไรกันบ้างก็สามารถตามเข้ามาดูได้ที่ KUBET ได้เลย