เคยเห็นหนังใหญ่สองเรื่องที่เข้าฉายเดือนเดียวกันไหมครับ ในมุมของคนดูจะรู้สึกว่าคุ้มเพราะได้ดูหนังใหม่ฟอร์มยักษ์ถึงสองเรื่องในเดือนเดียวกัน แต่ในมุมของค่ายหนังและนายทุนเขาจะคิดว่าเป็นการแข่งขันทางการตลาดมากกว่า วัดกันไปเลยว่าทั้งสองเรื่อง หนังใครจะทำรายได้มากกว่ากัน ซึ่งทั้งสองเรื่องที่เข้าฉายพร้อมกัน มีเรื่องหนึ่งที่ทำกำไรและอีกเรื่องหนึ่งเจ๊ง หรือทั้งสองเรื่องจะกอดพากันทำกำไรก็มีมาเช่นกัน วันนี้พวกเราKUBET จะพาไปดูหนังใหญ่ที่ฉายชนกัน จะมีเรื่องอะไรบ้าง ตามมาเลยครับ
หนังที่เข้าฉายพร้อมกัน มีทั้งกำไร มีทั้งเจ๊ง
อิทธิพลของ The Matrix
เมื่อปี 1999 เป็นช่วงเวลาที่เรื่อง The Matrix โด่งดังมาก และการเข้าฉายของเรื่องนี้ก็ส่งผลกระทบให้กับหนังเรื่องหนึ่งนั่นคือ The Thirteenth Floor
The Thirteenth Floor
หนังแนวสืบสวนสอบสวนที่ฉายในปี 1999 เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับแฮนนอน ผู้ที่สร้างเครื่องVR จำลองโลกเสมือนจริง วันหนึ่งแฮนนอนได้ค้นพบเข้ากับอะไรบางอย่างในโลกจำลองและตัดสินใจเข้าไปอยู่ในโลกจำลองในปี 1937 ก่อนจะถูกฆ่าตายอย่างปริศนา ขณะเดียวกันก็มีหญิงสาวลึกลับคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมอ้างว่าเธอคือลูกสาวแท้ๆของแฮนนอน เรื่องราวมันแปลกตรงที่แฮนนอนไม่เคยบอกใครเลยว่าเขามีลูกสาว
ทางตำรวจได้ตั้งข้อสงสัยไปที่ดักลาส ซึ่งดักลาสมีสถานะเป็นลูกน้องของแฮนนอนและสายสุดท้ายของแฮนนอนก็เป็นดักลาสที่โทรเข้ามา ดักลาสก็ยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำและเพื่อพิสูจน์ความจริงเขาจึงต้องเข้าไปในโลกวีอาร์เพื่อหาคำตอบทั้งหมดของเรื่องนี้ KUBET แค่พล็อตเรื่องก็ล้ำยุค1999ไปแล้ว หนังยังมีฉากหักมุมที่เล่นเอาคนดูอึ้งไปตามกันเลยทีเดียว
น่าเสียดายที่ The Thirteenth Floor ไม่ทำเงิน และไม่ถูกพูดถึงเท่าที่ควรเพราะตัวหนังดันไปฉายในช่วงที่ The Matrix เป็นกระแส ขนาดThe Thirteenth Floor ทิ้งช่วงหลังThe Matrix ฉายนานถึงสองเดือนก็ยังไม่สามารถสู้ได้ แถมยังถูกแฟนหนังด่าว่าไปก็อปเรื่องThe Matrix อีกด้วยความจริงแล้วไม่มีใครก็อปใคร เพราะหนังได้ถ่ายทำช่วงเวลาใกล้เคียงกัน เพียงแต่ว่า The Matrix เข้าฉายก่อนและโด่งดังก่อนนั่นเอง
10 Things I Hate About You
นอกจากนี้ยังมีหนังอีกเรื่องที่ฉายชนกับ The Matrix แต่เรื่องนี้ไม่ได้มีผลกระทบรายได้แต่อย่างใด 10 Things I Hate About You เรื่องนี้เป็นหนังรักที่นำแสดงโดย Heath Ledger เข้าฉายในวันที่ 31 มีนาคม ปี1999 เป็นวันเดียวกันกับเรื่อง The Matrix เป็นหนังรักที่ใช้ทุนสร้างน้อยแต่สามารถทำเงินไปได้เยอะพอสมควร หากเทียบกับการที่เข้าฉายพร้อมกับหนังฟอร์มยักษ์
Shazam Fury of the Gods 2023
นอกจากนี้ยังมีหนังที่ฉายตรงกัน และมีหลายครั้งที่ทางค่ายตัดสินใจเลื่อนฉายออกไป ไม่ให้ชนกับอีกเรื่องที่เข้าฉายเดือนเดียวกัน ในกรณีนี้เกิดขึ้นหลายครั้งยกตัวอย่างเรื่อง Shazam Fury of the Gods 2023 เดิมทีชาแซมได้มีกำหนดฉายตรงกับเรื่อง Avatar: The Way of Water 2022 แต่สุดท้าย WB ตัดสินใจเลื่อนการฉายออกไปให้ไกล เพื่อไม่ให้หนังตัวเองเจ็บหรือได้รับผลกระทบจากAvatar
แม้ว่าจะเลื่อนออกไปนานถึงสองเดือนแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ Shazam Fury of the Gods 2023 ทำกำไรอย่างที่ค่ายหวังไว้ และออกไปในทางผิดหวังด้วยซ้ำเพราะหนังเรื่องนี้ได้ใช้งบสูงถึง 125 ล้านเหรียญ ทำกำไรทั่วโลกอยู่แค่ 134 ล้านเหรียญเท่านั้น หากหักลบต้นทุน รวมถึงที่ส่งให้โรงภาพยนตร์เรียกได้ว่าขาดทุนยับ
การทำหนังให้ไม่เจ๋ง หนังเรื่องนั้นจะต้องทำกำไรมากกว่าต้นทุน 2-3เท่า อย่างเช่นShazamในภาคนี้ ได้ใช้ต้นทุน 125 ล้าน หากหนังต้องการทำภาค3 ต้องทำกำไรอยู่ที่ 280-300 ล้าน ถึงจะไม่ขาดทุนและได้กำไรแบบชัวร์ๆ พาร์ทนี้หนังเจ๊งไม่เป็นท่าซะเยอะเลย ในพาร์ทต่อไปเรามีหนังที่กอดคอกันทำกำไรมาฝากด้วย ตามไปดูกันได้เลยครับ
KUBET เว็บไซต์ลับความบันเทิงระดับโลก ที่นี่คุณสามารถดูข่าวบันเทิงล่าสุด ชีวิตดารา ข่าวดารา ซุบซิบดารา ฯลฯ ให้คุณได้รู้จักและติดต่อนักร้องและดาราที่คุณชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงคุณสามารถอัปเดตหนังดัง ที่มาที่ไป เบื้องลึกเบื้องหลัง ของหนังหรือการ์ตูนที่คุณชื่นชอบได้ที่นี่เลย