รีวิวหนัง The Crow (2024) อีกาพญายม หนังแอคชั่นสุดมันส์ ที่จะพาคุณดำดิ่งไปกับการแค้นแก้ที่ดุเดือด ใครที่ชอบหนังแนวนี้ไม่ควรพลาดนะครับ ใครที่อยากรู้แล้วว่าหนังเรื่องนี้จะสนุกแค่ไหนตาม KUBET มาดูกันได้เลยครับ
The Crow (อีกาพญายม)
The Crow เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ในปี 2024 กำกับโดย Rupert Sanders จากบทภาพยนตร์โดย Zach Baylin และ William Schneider เป็นการรีเมคภาพยนตร์ชุด The Crow เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ห้าในแฟรนไชส์และเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองหลังจากภาพยนตร์ในปี 1994 ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนชุดปี 1989 โดย James O’Barr ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์เชิงลบจากนักวิจารณ์และกลายเป็นหนังที่รายได้ถล่มทลาย โดยทำรายได้ทั่วโลก 21 ล้านดอลลาร์จากงบการผลิต 50 ล้านดอลลาร์
เรื่องย่อ
The Crow (อีกาพญายม) 2024 เป็นการกลับมาอีกครั้งของตำนานการแก้แค้นที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยอิงจากคอมมิคและภาพยนตร์ต้นฉบับที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เอริค ดราเวน นักดนตรีหนุ่มที่มีพรสวรรค์และกำลังจะแต่งงานกับสาวที่รัก ถูกกลุ่มแก๊งอันธพาลรุมทำร้ายและฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมในคืนก่อนวันแต่งงาน พร้อมกับแฟนสาวของเขา ทิ้งไว้เพียงความเสียใจและความแค้นที่ไม่มีวันลืมเลือน
อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมยังไม่สิ้นสุดเพียงเท่านั้น ด้วยพลังลึกลับจากอีกา เอริคได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งในสภาพที่แตกต่างออกไป เขาได้รับพลังพิเศษและความสามารถในการรักษาตัวเองอย่างรวดเร็ว พร้อมกับร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าเดิม เอริคกลายเป็น The Crow (อีกาพญายม) ผู้มีปีกสีดำและใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยสัก ในฐานะ The Crow เอริคมีภารกิจเดียวคือการล้างแค้นให้กับคนที่เขารัก เขาเริ่มสืบสวนหาความจริงและตามล่ากลุ่มแก๊งที่ก่อเหตุ
โดยใช้ความสามารถพิเศษของเขาในการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและการต่อสู้ที่ดุเดือด เขาไล่ล่าเหล่าผู้ร้ายทีละคน พร้อมกับเผชิญหน้ากับอุปสรรคและอันตรายมากมาย ตลอดการเดินทางเพื่อการแก้แค้น เอริคต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดและความสูญเสียที่เขาเคยประสบมา เขาต้องต่อสู้กับความมืดมิดภายในใจและพลังชั่วร้ายที่คอยขัดขวางเขา นอกจากนี้ เขายังต้องเผชิญหน้ากับตัวร้ายหลักของเรื่องที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด
ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวการแก้แค้น แต่ยังเป็นการสำรวจความรัก ความสูญเสีย และความยุติธรรม ตัวละครของเอริค ดราเวน เป็นตัวแทนของผู้คนที่ได้รับความอยุติธรรมและต้องการความยุติธรรม เขาเป็นสัญลักษณ์ของการลุกขึ้นสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง – BY KUBET
ข้อดีของหนัง
- งานสร้างภาพสวยงาม: ภาพยนตร์เวอร์ชั่นนี้มาพร้อมกับงานสร้างที่สวยงามตระการตา ฉากแอคชั่นดูอลังการและสมจริง เทคนิคพิเศษต่างๆ ทำออกมาได้ดีเยี่ยม
- ฉากบู๊มันส์สะใจ: ฉากต่อสู้ในหนังเต็มไปด้วยความรุนแรงและดิบเถื่อน ตอบโจทย์คอหนังแอคชั่นได้เป็นอย่างดี
- ดนตรีประกอบเข้ากับบรรยากาศ: ดนตรีประกอบช่วยเสริมสร้างอารมณ์ของหนังได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความมืดมิดและความเจ็บปวดของตัวละคร
- การแสดงของบิล สการ์สการ์ด: บิล สการ์สการ์ด สวมบทบาทเอริค ดราเวนได้อย่างน่าประทับใจ สามารถถ่ายทอดความเจ็บปวดและความแค้นออกมาได้อย่างดี
ข้อด้อยของหนัง
- บทภาพยนตร์ไม่ค่อยแข็งแรง: The Crow บทภาพยนตร์ยังมีจุดที่อ่อนอยู่บ้าง โดยเฉพาะการพัฒนาตัวละครรอง และการขาดความลึกซึ้งในบางส่วนของเรื่อง
- ขาดความเป็นตัวของตัวเอง: แม้จะมีการปรับปรุงใหม่ แต่ภาพยนตร์ก็ยังดูเหมือนเป็นการลอกเลียนแบบเวอร์ชั่นดั้งเดิมมากกว่าที่จะสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ
- ฉากรุนแรงเกินไป: บางฉากอาจมีความรุนแรงเกินไปจนอาจไม่เหมาะกับผู้ชมทุกคน
- ขาดความดาร์กและลึกลับ: เมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นดั้งเดิม ภาพยนตร์เวอร์ชั่นนี้ดูขาดความดาร์กและลึกลับไปบ้าง ทำให้บรรยากาศโดยรวมของหนังไม่เข้มข้นเท่าที่ควร
สรุปภาพรวมและความคุ้มค่าของหนัง
The Crow (อีกาพญายม) 2024 เป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจสำหรับแฟนหนังแนวแอคชั่น แต่ก็มีข้อดีข้อเสียที่ชัดเจน หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์ที่มีงานสร้างสวยงาม ฉากแอคชั่นมันส์ๆ และการแสดงของบิล สการ์สการ์ด คุณจะชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ถ้าคุณคาดหวังว่าจะได้เห็นภาพยนตร์ที่ลึกซึ้งและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อาจจะต้องผิดหวังเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการรีเมคออกมาได้ดี แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ดีเท่าเวอร์ชั่นดั้งเดิม
จบไปแล้วสำหรับรีวิวหนัง The Crow (2024) อีกาพญายม เป็นยังไงกันบ้างครับใครชอบหนังแนวนี้ก็ไปหาดูกันได้เลยนะครับ ส่วนใครที่ยังไม่ถูกใจหนังเรื่องนี้ก็สามารถเข้ามาเลือกดูเรื่องอื่นๆได้ที่ KUBET ได้เลยนะครับ (เพียงสมัครสมาชิกได้ที่นี่)