It คือภาพยนตร์สยองขวัญที่ดัดแปลงมาจากนวนิยาย เรื่องราวสุดหลอนที่มักจะมีข่าว การหายตัวไปของเด็กในเมือง และเรื่องราวของตัวตลกเพนนีไวซ์ที่อยู่เบื้องหลังปมปริศนาทุกอย่าง KUBET จะพาไปดูว่าในภาพยนตร์เรื่อง It จากปี 2017 จะมีข้อเท็จจริงไหนบ้างที่น่าสนใจและเราอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน
ความแค้นของ Henry Bowers
ในภาพยนตร์ It 2017 ภาคนี้ เฮนรีเด็กหัวโจกนิสัยเสียที่มักจะพุ่งเป้าไปแกล้งเบนมากที่สุด หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม The Losers’ Club เขาได้แกล้งเบนด้วยสารพัดวิธีโหด หนึ่งในสาเหตุของความแค้นที่ภาพยนตร์ไม่ได้นำเสนอมาก็คือเฮนรีพยายามให้เบนโกงข้อสอบในโรงเรียนแต่เบนปฏิเสธ และผลที่ตามมาก็คือเฮนรีไม่ผ่านการทดสอบจนทำให้ต้องเรียนภาคฤดูร้อนซ้ำอีกรอบ จากเดิมที่เขาหมั่นไส้เบนอยู่แล้ว เจอแบบนี้ทำให้มันกลายเป็นความแค้นที่หมายจะเอาชีวิตเบนไปเลย
ภาพสุดหลอน
ในช่วงที่กลุ่ม The Losers’ Club กำลังทำแผลให้เบนในตรอก จะมีจิตรกรรมฝาผนังภาพหนึ่งที่เป็นภาพจิตรกรรมจากข่าวที่โด่งดังในอดีต ซึ่งมักจะถูกอ้างอิงถึงนวนิยายดั้งเดิมปรากฏออกมาด้วย หากสังเกตดีๆเราจะเห็นรูปของเพนนีไวซ์ซ่อนตัวอยู่ในภาพ เพื่อเป็นการสื่อว่าตัวตลกตัวนี้จะสะกดรอยตามกลุ่มนี้มาโดยตลอดแม้ว่าเขาจะไม่รู้ตัวก็ตาม
You Die If You Try
ตอนที่บิวได้เดินทางไปบ้านของเบเวอร์รี่ ก็เห็นตัวหนังสือคำว่า You Die If You Try ด้วยการเขียนด้วยเลือดบนผนัง แม้ว่าเพนนีไวซ์จะไม่เคยพูดคำนี้ออกมาในภาพยนตร์ แต่นี่คือประโยคที่เพนนีไวซ์มักพูดออกมาทั้งในนิยายและซีรี่ย์ในยุค 90’s เสมอมา
เปลี่ยนสีดวงตา
ในช่วงที่เพนนีไวซ์ล่อจอร์จี้เข้าไปในท่อระบายน้ำ จะมีจังหวะที่ดวงตาของเขาเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีน้ำเงิน แม้ว่ามันดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่สำหรับผู้อ่านนิยายมาก่อนจะรู้ได้ว่านี่คือคุณลักษณะสำคัญของตัวละครเรื่องนี้ที่มักจะถูกอธิบายออกมาอยู่เสมอจนกลายเป็นเอกลักษณ์สุดหลอนของเขานั่นเอง
กลอกตา
อีกเรื่องความน่ากลัวของเพนนีไวซ์ที่ถูกระบุเอาไว้อย่างชัดเจนคือการกลอกตาไปมาแบบไร้ทิศทาง ซึ่งดูแล้วมันเป็นอะไรที่น่าสยองสำหรับคนดูเอามาก ความสามารถนี้มาจากฝีมือการแสดงของนักแสดงผู้รับบทนี้อย่างบิล สการ์สการ์ด ที่สามารถทำแบบนี้ได้เองโดยไม่ต้องใช้ CGI ช่วยแม้แต่นิด และยังทำให้เขาดูเหมาะสมที่จะรับบทนี้มากขึ้น
KUBET ข้อนี้ทำเอาแอดอยากกลับไปหาดูอีกรอบเลย ว่าเขาจะกลอกตาอย่างไรให้มันหลอนจนน่าขนลุกขนาดนั้น
กะพริบตา
หากสังเกตจะเห็นในภาพยนตร์ เพนนีไวซ์จะกะพริบตาแค่สองช่วงเท่านั้น นั่นคือจังหวะที่กำลังจะหลอกจอร์จี้ให้ลงไปในท่อระบายน้ำกับเขา และจังหวะที่เขาปลอมตัวเป็นจอร์จี้ในตอนเจอกับบิลล์ช่วงท้ายเท่านั้น ช่วงที่เหลือของภาพยนตร์ทั้งหมดเราจะไม่เห็นเขาจะไม่กะพริบตาออกมาเลย
ห้องสมุดสุดหลอน
ในขณะที่เบนกำลังหาข้อมูลอุบัติเหตุของวันอีสเตอร์ในห้องสมุด ขณะที่เขากำลังอ่านข่าวเก่าก็ได้เจอกับภาพเด็กหัวขาดบนต้นไม้สุดสยอง เราจะเห็นหญิงชราคนหนึ่งยืนยิ้มแล้วจ้องมาที่เขาไม่หยุด ซึ่งนั่นคือตัวของเพนนีไวซ์ที่เฝ้าดูความกลัวของเบนกำลังหวาดผวากับรูปของเด็กหัวขาดคนนั้นนั่นเอง
การรับรู้ของสัตว์
แม้ว่าหญิงสูงอายุจะเป็นมนุษย์คนเดียวที่อยู่ข้างนอกในตอนที่จอร์จี้กำลังถูกเพนนีไวซ์จับตัวไป แต่แมวก็น่าจะเป็นพยานเพียงหนึ่งเดียวที่รับรู้ได้ถึงการฆาตกรรมของจอร์จี้แบบตรงๆ จอร์จี้อาจแสดงให้เห็นว่าสัตว์ต่างๆสามารถรับรู้และสามารถสัมผัสถึงความชั่วร้ายของเพนนีไวซ์ได้ ในขณะที่ผู้ใหญ่อย่างหญิงชราคนนั้นก็แสดงให้เห็นว่าเธอไม่สนใจอะไรเกี่ยวกับเพนนีไวซ์เหมือนผู้ใหญ่คนอื่น
เสื้อของ Eddie Kaspbrak
ในช่วงหนึ่งของภาพยนตร์จะมีจังหวะที่เอ็ดดี้สวมเสื้อลายรถยนต์ซึ่งหันหน้าออกมาจากตัวเสื้อ โดยภาพของรถคันนั้นจะเป็นการอ้างอิงไปถึงภาพยนตร์เรื่องChristine ปี1983 ที่ดัดแปลงมาจากนิยายคลาสสิคของสตีเวน คิงส์ และเล่าเรื่องราวของรถผีสิงออกไล่ล่ามนุษย์
ลางร้าย
ในฉากที่บิลล์ถูกปลุกให้ตื่นกลางดึก โดยมีน้ำหยดลงมาจากเพดานลงบนภาพวาดที่อยู่ข้างที่นอน ซึ่งน้ำจะทำให้สีแดงที่เป็นสีผมบนภาพวาดให้ดูเหมือนเลือด สิ่งนี้ก็จะเป็นการบอกเป็นนัยว่าอีกฉากหนึ่งในภาพยนตร์ที่กำลังจะมาถึง ก่อนที่เบเวอร์รี่จะถูกเพนนีไวซ์ลักพาตัวไป และก่อนจะถูกปลุกขึ้นมาในท่อระบายน้ำโดยการมีหยดเลือดตกลงบนใบหน้าของเธอ
ในพาร์ทต่อไปจะเป็นเรื่องไหนบ้าง ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาดครับ
KUBET เว็บไซต์ลับความบันเทิงระดับโลก ที่นี่คุณสามารถดูข่าวบันเทิงล่าสุด ชีวิตดารา ข่าวดารา ซุบซิบดารา ฯลฯ ให้คุณได้รู้จักและติดต่อนักร้องและดาราที่คุณชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงคุณสามารถอัปเดตหนังดัง ที่มาที่ไป เบื้องลึกเบื้องหลัง ของหนังหรือการ์ตูนที่คุณชื่นชอบได้ที่นี่เลย