ภาพยนตร์และอนิเมชั่นมากมายที่เราเคยดูกันโดยเฉพาะจากทางค่ายดิสนีย์ แค่ชื่อค่ายก็การันตีแล้วว่าหนังที่เราได้ดูต้องมีคุณภาพอย่างแน่นอน ด้วยความที่ทางดิสนีย์ประสบความสำเร็จมากมาย จึงทำให้มีบางค่ายที่ต้องการจะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันจึงทำอนิเมชั่นออกมา วันนี้พวกเราKUBET ได้รวมหนังที่พยายามจะเป็นเหมือนดิสนีย์ให้ทุกคนได้เปรียบเทียบกัน ไปดูกันครับว่าจะมีเรื่องไหนกันอีกบ้าง
ปี 1989 ดิสนีย์ได้ปล่อยหนังเรื่องหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อวงการอนิเมชั่นหลายเรื่องในช่วงนั้นเลยก็ว่าได้ ซึ่งเรื่องนั้นก็คือThe Little Mermaid ที่ได้กอบกู้ชื่อเสียงของสตูดิโอให้กลับเข้าสู่ภาวะรุ่งโรจน์อีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้สตูดิโอดิสนีย์ก็กำลังประสบปัญหาที่หนังในช่วงหลังไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่
หลังจากที่ The Little Mermaid ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย ทำให้หนังหลายเรื่องของดิสนีย์ประสบความสำเร็จตามไปด้วย นั่นจึงทำให้ดิสนีย์เข้าสู่ยุคทองอีกครั้งทันทีหรือที่เรียกกันว่า ยุคDisney Renaissance นั่นเอง และตลอดหลายปีหลังจากนั้นอนิเมชั่นของดิสนีย์ก็เหมือนจะเป็นแม่แบบหรือเป็นภาพจำของคนดูที่คอยกำหนดว่าถ้าจะทำอนิเมชั่น ก็จะทำออกมาคล้ายกับของดิสนีย์เพราะอนิเมชั่นแต่ละเรื่องของดิสนีย์มีรายได้อย่างมหาศาล
แถมยังสามารถกวาดรางวัลออสก้ามาได้แทบทุกเรื่อง ตัวการันตีคุณภาพของดิสนีย์ในยุคทองนี้ ทำให้หลายค่ายที่ปล่อยอนิเมชั่นของตัวเองออกมาเพื่อที่จะมาเป็นคู่แข่งในตลาดกับดิสนีย์ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีที่ผู้ชมจะได้มีตัวเลือกนอกจากค่ายดิสนีย์ แต่ทว่าหลายๆเรื่อง คุณภาพและความสำเร็จอาจจะเทียบเท่ากับดิสนีย์ไม่ได้เลย เหตุผลก็คือ หลายเรื่องพยายามที่จะทำตามดิสนีย์มากเกินไปจนทำให้หนังของพวกเขาไม่มีความเป็นเอกลักษณ์ ไปดูกันครับว่าจะมีเรื่องไหนกันบ้าง
KUBET เข้าใจว่าทุกคนต้องการจะประสบความสำเร็จให้เหมือนกับไอดอล หรือคนที่เรานำมาเป็นแบบอย่าง แต่การที่เหมือนจนเกินไปจนทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเองนั่นมันก็ส่งผลเสียต่อตัวเองอยู่ไม่มากก็น้อยได้เหมือนกัน และถ้าหากยิ่งสูญเสียความเป็นตัวเองจนไม่เป็นภาพจำนี่ด้วยแล้วละก็ ไม่มีตรงไหนที่เป็นข้อดีเลยละครับ
An American Tail
An American Tail : Fievel Goes West ปี1991 จากUniversal Pictures ครอบครัวของเจ้า
หนูชาลวิลที่กำลังอพยพไปอเมริกา และก็ได้เดินทางไปยังตะวันตกเพื่อหาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ฟีเวลตัวละครที่เป็นลูกชายต้องอยู่คนเดียวหลังจากที่ได้แผนของแมวผู้ชั่วร้ายที่จะหาประโยชน์จากหนูเพื่อใช้เป็นแรงงาน จากนั้นก็จะกินพวกหนูที่หลอกมา ขณะที่เขาพยายามเตือนคนในครอบครัว ซึ่งเขาก็ได้พบกับตำนานมือปืนชื่อดัง โดยมีเจมส์ สจวร์ต นักแสดงดังยุค90’s ในขณะนั้น ได้ให้เกียรติมาพากย์เสียงให้
โดยหนังเรื่องนี้ได้ฉายวันเดียวกับเรื่องBeauty and the Beast ของดิสนีย์ ทำให้An American Tail : Fievel Goes West อยู่อันดับล่างๆของ Top10 และหนังก็ทำรายได้ไปได้เพียง 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยงบการสร้าง 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลายคนมองว่า อาจจะเป็นเพราะหนังเรื่องนี้เข้าฉายวันเดียวกับหนังของดิสนีย์ จึงทำให้รายได้ไม่มากเท่าที่ควร
ปัญหาของภาพยนตร์
การใช้จุดขายที่เป็นการนำเสนอมุมมองที่ละเอียดอ่อนของชีวิตผู้อพยพให้ดูลึกซึ้งน้อยลง ให้เป็นการ์ตูนเด็กมากขึ้น ถูกแทนที่ด้วยผู้อพยพถูกเอาเปรียบ หรือฉากที่เด็กกำพร้าถูกบังคับให้ไปทำงานในโรงงานนรกที่เป็นการแฝงความคิดโบราณของชาวตะวันตกกับการใช้แรงงานเด็ก และตัวร้ายของเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นมาเหมือนตัวตลก ที่ไร้มิติความเป็นตัวร้าย
อีกทั้งอเมชั่นก็ไม่มีความเป็นเอกลักษณ์ โดยเนื้อเรื่องได้ทำการเปลี่ยนเนื้อหาและรายละเอียดต่างๆของอนิเมเตอร์ Don Bluth ให้มาเป็นสไตล์ที่ใกล้เคียงแบบดิสนีย์มากกว่า
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับเรื่องรวมหนังที่พยายามจะเหมือนดิสนีย์ ทุกคนว่ามันมีความเหมือน หรือพยายามที่จะเหมือนอย่างไรบ้างครับ ติดตามเรื่องอื่นๆได้ต่อที่พาร์ทสองเลย อย่าพลาดเด็ดขาดว่าเรื่องไหนที่จะเหมือนกับดิสนีย์ เราไปช่วยกันเปรียบเทียบกันดูได้เลยครับ
KUBET เว็บไซต์ลับความบันเทิงระดับโลก ที่นี่คุณสามารถดูข่าวบันเทิงล่าสุด ชีวิตดารา ข่าวดารา ซุบซิบดารา ฯลฯ ให้คุณได้รู้จักและติดต่อนักร้องและดาราที่คุณชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงคุณสามารถอัปเดตหนังดัง ที่มาที่ไป เบื้องลึกเบื้องหลัง ของหนังหรือการ์ตูนที่คุณชื่นชอบได้ที่นี่เลย