สวัสดีครับ เคยสังเกตกันไหมครับว่านับตั้งแต่หลังจากที่เกิดโรคระบาดโควิด19 พฤติกรรมของผู้คนหลายคนก็เริ่มเปลี่ยนไป หันมาทำกิจกรรมอื่นๆกันมากขึ้น หรือหากจะดูหนังก็เลือกดูที่บ้านมากกว่าการออกไปเจอผู้คนที่โรงหนัง แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้กระทบกับค่ายหนังน้อยใหญ่ทุกค่ายแน่นอน วันนี้พวกเราKUBET จะพาทุกคนไปพบกับเรื่องราวของยุคสมัยที่เปลี่ยนไป รวมถึงไปดูกันว่าค่ายหนังฟอร์มยักษ์ เขามีวิธีรับมือหรือจัดการอย่างไร ไปดูกันครับ
โรคได้เปลี่ยนโลกไปแล้ว
“ทุกอย่างมันกลับตาลปัตรหมดแล้วหนังใหญ่ที่ เจ๊ง ในปี 2023 มีมากกว่าปีไหนๆ ความสนใจของผู้ชมในการเข้าโรงหนังได้เปลี่ยนไปแล้ว” นี่คือบทสัมภาษณ์ที่ Rich Greenfield (Wall Street) ได้พูดเอาไว้
ปี 2023 กลายเป็นจุดหักเหของโลกภาพยนตร์ในแบบที่คาดไม่ถึง นอกจากจะเป็นปีแรกที่เราได้พ้นวิกฤตโรคระบาดอย่างเป็นทางการ ปี2023 ยังเป็นปีแห่งการทดสอบว่าพฤติกรรมของผู้ชมได้เปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหนและจริงหรือไม่ที่ผู้ชมจะเลิกดูหนังในโรงภาพยนตร์ มีรายงานออกมาว่าปี2023 รายได้รวมของภาพยนตร์ในอเมริกาได้แตะถึง 9 พันล้านเหรียญ ซึ่งถือว่ามากกว่าปี 2022 ถึง21% และเป็นปีแรกหลังจากหมดโควิด19 ที่ยอดฉายสามารถแตะถึงหลักนี้ได้
ตัวเลขที่ว่านี้เหมือนจะดี แต่ถ้าหากลองเปรียบเทียบดูจริงๆแล้ว 9พันล้านเหรียญ ยังถือว่าน้อยกว่าในปี2019 ถึง21% และจากหนังทั้งหมดที่เข้าฉายในปี2023 มีเพียง 8เรื่องเท่านั้นที่ทำรายได้เกิน 500ล้าน ยิ่งไปกว่านั้นหนังที่เคยเป็นหนังใหญ่ในปีก่อนๆ ก็กลายเป็นหนังเจ๊งแห่งปีกันแทบทั้งหมด
KUBET ทีแรกแอดเห็นตัวเลข 9 พันล้าน ซึ่งดูแล้วมันก็ไม่ใช่น้อยๆเลย แต่พอมาดูสถิติเปรียบเทียบ เห็นได้ชัดในความแตกต่างจริงๆครับ เห็นชัดแล้วว่าพฤติกรรมคนดูได้เปลี่ยนไป การเข้าไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ก็น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากเทศกาลหรือวันสำคัญพิเศษ
จากบทความของThe Hollywood Reporter พวกเขาได้พบกับข้อมูลที่น่าตกใจ เมื่อ1ใน5ของผู้ชมที่เคยตีตั๋วดูหนังในโรงได้หายไป เพราะเขาเลือกที่จะไม่เข้าโรงหนังแต่กลับเลือกที่จะไปทำกิจกรรมอื่นแทน นั่นหมายความว่าพฤติกรรมของผู้ชมเริ่มเปลี่ยนไป หากลองดูรายชื่อท็อป3 ของหนังที่ประสบความสำเร็จในปี 2023 นำทีมโดยBarbie จากWarner Bros. The Super Mario Bros. Movie จาก Universal และ Oppenheimer จาก Universal ตามลำดับ ทั้งหมดล้วนไม่ใช่หนังภาคต่อ
ส่วนหนังที่เคยถูกยกว่าเป็นหนังใหญ่อย่างหนังซูเปอร์ฮีโร่ต่างกอดคอกันเจ๊งระเนระนาดแพ็คคู่กันทั้งค่าย Marvel และ DC นับตั้งแต่เรื่อง Ant-Man and The Wasp: Quantumania ในช่วงต้นปีจนถึงกลางปีกับ The Flash และแห้วส่งท้ายปีกับ The Marvels และ Aquaman and the Lost Kingdom จะมีเพียงแค่ Guardians of the Galaxy Vol 3 และ Spider-Man: Across the Spider-Verse เพียงสองเรื่องเท่านั้นที่รอดชีวิต
พฤติกรรมของคนดูที่เปลี่ยนไป
“รสนิยมของผู้ชมได้เปลี่ยนไปแล้ว” นี่คือประโยคสั้นๆแต่ได้ใจความจาก Paul Dergarabedian นักวิเคราะห์บ๊อกออฟฟิศจาก Comscore
นอกจากนี้ผู้บริหารสตูดิโอใหญ่ผู้ไม่ประสงค์ออกนามยังเสริมอีกว่า “โลกภาพยนตร์กำลังเข้าสู่วิวัฒนาการครั้งใหญ่การทำหนังแบบเดิมที่พึ่งบุญบารมีของแฟรนไชส์อาจไม่ใช่หนทางอีกต่อไปแล้ว” ในบรรดาหนังที่ประสบความสำเร็จในปี 2023 จะเห็นได้ว่าผู้ชมต้องการภาพยนตร์ที่ท้าทายความคิดและท้าทายสมองมากกว่าเคย
จบไปแล้วครับกับพาร์ทแรก มีใครอ่านแล้วเกิดคำถามหลายอย่างขึ้นในหัวเหมือนแอดบ้างไหมครับว่าโลกเราเปลี่ยนไปและหมุนไปไวจริงๆ ซึ่งหากมองย้อนกลับไปมันก็ไม่ได้นานอะไรเลย เกิดภาพขึ้นมาในหัวว่าเมื่อตอนเรียนเรายังชวนเพื่อนไปดูหนังกันเป็นกลุ่มเป็นแก๊งอยู่เลย แต่ถ้าวันหนึ่งหากโลกมันจะเปลี่ยนไปจนไม่มีโรงภาพยนตร์ แต่เปลี่ยนเป็นทุกคนดูหนังที่บ้านกันหมด
ถึงวันนั้นมันคงใจหายน่าดูนะครับ ติดตามอ่านยุคสมัยที่เปลี่ยนไป กับหนังค่ายฟอร์มยักษ์ต้องรับมือได้ต่อในพาร์ทที่สองได้เลยครับ
KUBET เว็บไซต์ลับความบันเทิงระดับโลก ที่นี่คุณสามารถดูข่าวบันเทิงล่าสุด ชีวิตดารา ข่าวดารา ซุบซิบดารา ฯลฯ ให้คุณได้รู้จักและติดต่อนักร้องและดาราที่คุณชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงคุณสามารถอัปเดตหนังดัง ที่มาที่ไป เบื้องลึกเบื้องหลัง ของหนังหรือการ์ตูนที่คุณชื่นชอบได้ที่นี่เลย