KUBET แนะนำละครไทยแนวพีเรียดโรแมนติกดราม่าที่ออกอากาศทางช่องวัน 31 ดึงดูดผู้ชมด้วยเนื้อเรื่องเข้มข้น ตัวละครที่น่าสนใจและฉากหลังที่งดงาม ถ่ายทอดเรื่องราวของหญิงสาวสามคนที่ชีวิตพลิกผันมาเป็นนางคณิกาในหอบุปผชาติ ซ่องโสเภณีชื่อดังในยุคร. 5 เรื่องราวน่าติดตามอย่างไร ไปรับชมกันเลย
บางกอกคณิกา เป็นละครเกี่ยวกับอะไร?
บางกอกคณิกา เป็นละครโทรทัศน์แนวพีเรียดโรแมนติกดราม่าอิงประวัติศาสตร์ ที่ออกอากาศทางช่องวัน 31 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ถึง 30 พฤษภาคม 2567 จำนวนทั้งหมด 8 ตอนจบ ประพันธ์บทโดย พิมพ์มาดา พัฒนอลงกรณ์ และ มิกิ ยามาโตริ กำกับโดย สันต์ ศรีแก้วหล่อ นำแสดงโดย อิงฟ้า วราหะ, ก้อย อรัชพร และ ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา
ละครเรื่องนี้เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับ กุหลาบ (รับบทโดย อิงฟ้า วราหะ) , โบตั๋น (รับบทโดย ก้อย อรัชพร) และ เทียนหยด (รับบทโดย ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา) หญิงสาวสามคนที่มีชีวิตพลิกผันมาเป็นนางคณิกาใน หอบุปผชาติ ซ่องโสเภณีชื่อดังในย่านสำเพ็ง กรุงเทพมหานคร ยุคสมัยรัชกาลที่ 5
ท่ามกลางสังคมที่กดขี่ผู้หญิงในยุคนั้น ทั้งสามสาวต่างก็ใฝ่ฝันถึงอิสรภาพและชีวิตที่ดีกว่า พวกเธอจึงต้องต่อสู้เพื่อหาเงินไถ่ถอนตัวเองออกจากหอบุปผชาติ ละครเรื่องนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงแง่มุมต่างๆ ของชีวิตนางคณิกา ทั้งความยากลำบาก การถูกกดขี่ และความฝันของพวกเธอที่จะมีชีวิตที่ดี
ติดตามรีวิวหนัง หนังใหม่เข้าโรง อนิเมะน่าดูและข่าวสารวงการบันเทิงใต้เตียงดาราได้ที่ KUBET
ประเด็นสำคัญในละครบางกอกคณิกา
ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ละครที่ให้ความบันเทิง แต่ยังแฝงไปด้วยประเด็นสำคัญต่างๆ มากมาย
การต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี
ละครเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการกดขี่ผู้หญิงในสังคมยุคสมัยก่อน ผู้หญิงถูกมองว่าเป็นเพศที่อ่อนแอ ไร้ค่า และถูกจำกัดสิทธิ์ต่างๆ นางคณิกาในละครเรื่องนี้จึงเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ความฝันและความหวัง
แม้จะต้องเผชิญกับชีวิตที่ยากลำบาก แต่ทั้งสามสาวก็ยังมีความฝันและความหวังที่อยากจะไขว่คว้า กุหลาบใฝ่ฝันอยากเดินทางรอบโลก โบตั๋นอยากมีความรักเหมือนผู้หญิงทั่วไป และเทียนหยดอยากเป็นหมอ ละครเรื่องนี้จึงสอนให้เราเห็นว่าแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เราก็ไม่ควรสูญเสียความฝันและความหวัง
มิตรภาพ
มิตรภาพคือพลังสำคัญที่ช่วยให้ทั้งสามสาวผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตไปได้ พวกเธอให้กำลังใจ สนับสนุน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ความรัก
ละครเรื่องนี้ยังบอกเล่าเรื่องราวความรักในรูปแบบต่างๆ ของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นความรักระหว่างหญิงชาย ความรักระหว่างเพื่อน และความรักของครอบครัว
บางกอกคณิกา ไม่ได้เป็นเพียงละครที่ให้ความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังแฝงไปด้วยข้อคิดและสาระที่ทรงพลัง ละครเรื่องนี้จึงได้รับคำชื่นชมจากผู้ชมอย่างล้นหลาม และกลายเป็นหนึ่งในละครไทยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปี 2567
ติดตามรีวิวหนัง หนังใหม่เข้าโรง อนิเมะน่าดูและข่าวสารวงการบันเทิงใต้เตียงดาราได้ที่ KUBET
ย้อนประวัติศาสตร์ “โสเภณีย่านสำเพ็ง” อันโด่งดัง
ในอดีต ย่านสำเพ็ง ไม่ได้โด่งดังแค่เรื่องแหล่งค้าขายส่งที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังขึ้นชื่อในฐานะแหล่ง “โคมเขียว” หรือ ซ่องโสเภณี ที่ใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 5
จุดกำเนิดของโสเภณีในย่านสำเพ็ง มีหลักฐานบ่งชี้ การค้าประเวณีในย่านสำเพ็งมีมานานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเฉพาะในชุมชนชาวจีน กระทั่งในสมัยรัตนโกสินทร์ ย่านสำเพ็งกลายเป็นชุมชนชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง การค้าประเวณีจึงเฟื่องฟูไปพร้อมกับเศรษฐกิจและสังคมในย่านนี้
ลักษณะของซ่องโสเภณีในย่านสำเพ็ง มีหลากหลายประเภท ตั้งแต่ซ่องเล็กๆ ไปจนถึงซ่องใหญ่ที่มีการตกแต่งอย่างหรูหรา ซ่องเหล่านี้มักมี “โคมเขียว” แขวนไว้หน้าร้านเป็นสัญลักษณ์ โดยผู้หญิงที่ทำงานในซ่องโสเภณีมาจากหลากหลายภูมิหลัง ทั้งหญิงไทยและหญิงจีน
หน้าที่และบทบาทของโสเภณีในยุคนั้น ทำหน้าที่เป็นสิ่งบันเทิงใจยามค่ำคืนสำหรับผู้ชาย พวกเธอให้บริการทางเพศเพื่อแลกกับเงิน บางคนยังทำหน้าที่เป็นเพื่อนและที่ปรึกษาให้กับลูกค้า และยังมีบทบาทในสังคมที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม อาชีพของพวกเธอมักถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ต่ำต้อย ไร้ค่า
การค้าประเวณีในย่านสำเพ็งเริ่มเสื่อมลงในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ปัจจุบัน ย่านสำเพ็งยังคงเป็นแหล่งค้าขายที่สำคัญ แต่กิจการโสเภณีได้หายไปจากพื้นที่แห่งนี้แล้ว เหลือเพียงเรื่องราวและตำนานที่ถูกเล่าขานสืบต่อมา
หากคุณกำลังมองหาละครไทยที่สนุก เข้มข้น และแฝงไปด้วยข้อคิด บางกอกคณิกา เป็นละครที่ไม่ควรพลาด สมัครสมาชิก เพื่อติดตามรับชมละครไทย หนังต่างประเทศ และ อนิเมะมากกว่า 1,000 เรื่องได้ที่เว็บไซต์ KUBET พร้อมอัพเดทข่าวสารวงการบันเทิงทั้งหมดก่อนใครที่นี่