ต่อจากพาร์ทที่แล้วกับต้นฉบับหนังดังที่โลกลืม เป็นธรรมดาที่คนเราจะเลือกดูหนังใหม่ เสพสิ่งใหม่อยู่เสมอ และยิ่งหากเป็นหนังที่รีเมคขึ้นมาแต่ภาคใหม่ดันดีกว่า สนุกกว่า ภาคเก่าๆจะถูกลืมไปอย่างง่ายดายทันที ในพาร์ทนี้จะมีเรื่องอะไรที่ถูกลืมไปบ้าง KUBET จะพาไปดูกันต่อเลยครับ
The Super Mario Bros. Movie 2023
The Super Mario Bros. Movie 2023 ตัวละครสุดโด่งดังจากเกมมาริโอ้ ของค่ายเกมนินเทนโดที่พึ่งถูกฮอลลีวูดนำไปสร้างเป็นอนิเมชั่น จนทำเงินไปถึง 1300 ล้านดอลลาร์ ก็เคยมียุคมืดมาก่อนเช่นกันคือยุค90 นั่นคือเรื่อง Super Mario Bros. ฉบับไลฟ์แอคชั่น ที่ได้รับความไว้วางใจจาก Nintendo นำเกมมาริโอมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ โดยมีค่ายหนัง Hollywood Picture บนเครือดิสนีย์ ใช้ทุนสร้างถึง 48 ล้านดอลลาร์
ความวุ่นวายตั้งแต่เริ่มโปรเจกต์
ด้วยความคาดหวังว่าหนังฮอลลีวูดเรื่องแรกที่ดัดแปลงจากวิดีโอเกมเรื่องนี้ จะประสบความสำเร็จระดับสร้างปรากฏการณ์ แต่มันกลับกลายเป็นหายนะ ก่อนที่หนังจะทำจบ มีทั้งการลาออกของผู้กำกับฮาโรลด์ รามิส จนต้องมีการเปลี่ยนตัวกลางคัน ไปจนกระทั่งดิสนีย์เข้ามารื้อหนังฉบับเก่าทิ้งและให้นักเขียนคนใหม่มาแก้บทให้หนังดูมีความเป็นมิตรกับครอบครัวมากขึ้น จนนักแสดงเกิดความเครียด เพราะต้องท่องบทกันใหม่
นอกจากนี้ในฉากสำคัญบางส่วนที่ผู้กำกับคนเก่าได้สร้างไว้ก็ต้องถูกรื้อทิ้งและสร้างใหม่อย่างเร่งรีบ สุดท้ายแล้ว Super Mario Bros. ก็ได้กลายเป็นหนังคุณภาพต่ำที่สร้างออกมาไม่สมบูรณ์ที่ใช้ทุนสร้าง 48 ล้านดอลลาร์ บรรดานักวิจารณ์ต่างต้องพากันวิจารณ์ยับในหนังเรื่องนี้ ขณะที่รายได้ทำไปเพียง 39 ล้านดอลลาร์ เรียกได้ว่าล้มเหลวทุกทางจนแทบจะทำลายอาชีพของผู้กำกับอย่างร็อคกี้ มอร์ตัน และแอนนาเบล จังเคิล และหนังได้ถูกโลกลืมไปอย่างรวดเร็ว
KUBET สำหรับแอดแล้ว ทุนสร้าง48ล้าน ทำได้ 39 ล้าน ยังถือว่าไม่ได้ล้มเหลวหรือแย่อะไร หากเทียบกับหนังบางค่ายที่เคยขาดทุนไปหลักร้อยล้านเหรียญ
The Lord of the Rings Trilogy 2001-2003
ภาพยนตร์ไตรภาคThe Lord of the Rings Trilogy ของผู้กำกับปีเตอร์ แจ็กสัน นับว่าเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาล เพราะไตรภาคชุดนี้กวาดรายได้รวมกันไปมากกว่า 3000 ล้านดอลลาร์ และกวาดรางวัลออสก้ารวมกันได้มากถึง 17 รางวัล ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวช่วงแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจาก The Lord of the Rings ปี1978 ฉบับอนิเมชั่น ที่ถูกมองว่าเป็นการดัดแปลงจากวรรณกรรมคลาสสิกที่ล้มเหลวในทุกๆทาง
The Lord of the Rings ฉบับอนิเมชั่นคือผลงานการสร้างสรรค์ของราล์ฟ แบ็กซี อนิเมเตอร์ฝีมือดีที่แจ้งเกิดจากการ์ตูนติดเรทอย่าง Fritz the Cat,Heavy Traffic และ Coonskin กลายเป็นเครดิตที่ทำให้เขาได้รับโอกาสทำโปรเจกต์ในฝันนั่นคือการสร้างอนิเมชั่นเรื่อง The Lord of the Rings ออกมาในปี 1978 โดยหารู้ไม่ว่าในท้ายที่สุดมันจะกลายเป็นฝันร้ายที่สร้างบาดแผลในชีวิตการทำงานของเขา
ข้อจำกัดหลายอย่าง
เพราะแม้ว่าเขาจะพยายามสร้าง The Lord of the Rings ฉบับอนิเมชั่นออกมาและเคารพต้นฉบับให้มากที่สุด แต่ด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณและเวลา จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ทำให้เขาต้องตัดเนื้อหาบางส่วนลงและต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้จบภายในหนังแค่สองภาค และแม้ว่าจะมีการตัดทอนรายละเอียดให้สั้นลงไปแต่การผลิตอนิเมชั่นภาคแรกยังต้องใช้อนิเมเตอร์ถึง 200 คนและระยะเวลาการผลิตยาวนานถึง2ปี
ทำเงินแต่กลับโดนวิจารณ์ยับ
เมื่อหนังเข้าฉายเดือนพฤศจิกายนปี 1978 ทั้งนักวิจารณ์และแฟนคลับนิยายต่างพากันโขกสับหนังเรื่องนี้ว่ามีการดำเนินเรื่องที่น่าเบื่อ ชวนสับสน ทำลายมนต์ขลังและนิยายของหนังลงจนพังพินาศ แม้ว่าหนังทุนสร้าง 4 ล้านดอลลาร์เรื่องนี้ จะทำเงินไปมากถึง 30 ล้านดอลลาร์ แต่เพราะเสียงตอบรับทางลบอย่างเป็นเอกฉันท์ทำให้ The Lord of the Rings จบลงอย่างค้างคาแค่หนังภาคเดียว เพราะหนังภาคสองไม่ได้รับการอนุมัติออกมาอย่างที่แบ็กซีตั้งใจ
Dune
นิยายชุด Dune ของ Frank Herbert ขึ้นชื่อเรื่องความยากที่นำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ แต่เป็นเรื่องยกเว้นของ Dune 2021 ของผู้กำกับDenis Villeneuve เพราะหนังได้ประสบความสำเร็จในทุกทาง ทั้งรายได้ คำวิจารณ์ และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมอีกด้วย แต่ต้องยอมรับว่าความสำเร็จของ Dune ฉบับนี้ นอกเหนือจากความต้องการของเดอนี วิลเนิฟว์ ยังเป็นเพราะเขาตระหนักดีว่านิยายเรื่องนี้ยากต่อการดัดแปลงให้เป็นภาพยนตร์จบภายในภาคเดียว
โดยเขาอาศัยภาพยนตร์เรื่องDune ในอดีตมาเป็นบทเรียนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องDune ของJodorowsky’s ที่มีการเขียนบทและเตรียมงานสร้างจนพร้อมถ่ายทำแล้ว แต่โปรเจกต์ต้องถูกพับไปเพราะไม่มีค่ายหนังค่ายไหนที่อ่านบทหนังเวอร์ชั่นนี้แล้วเข้าใจ รวมถึงไม่เสี่ยงที่จะออกทุนสร้างให้
รายละเอียดเยอะจนคนดูงง
หนังเรื่อง Dune ของผู้กำกับเดวิด ลินช์ ในปี1984 ที่แม้จะสร้างออกมาจนเสร็จสมบูรณ์แต่ก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในทุกๆด้าน แน่นอนว่าความผิดพลาดใหญ่สุดในเวอร์ชั่นของเดวิด ลินช์ หนีไม่พ้นการทำนิยายที่เต็มไปด้วยรายละเอียดยิบย่อย และใช้ทุนสร้างทุนสูงถึง 45 ล้านดอลลาร์ แต่เก็บรายได้กลับมาเพียงแค่ 27 ล้านดอลลาร์ อีกทั้งยังถูกแฟนนิยายสาปส่งอย่างหนัก
ผู้กำกับอย่างเดวิด ลินช์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า ”รู้สึกเสียใจอย่างมากที่นำนิยายของแฟรงค์ เฮอร์เบิร์ตมาทำแล้วล้มเหลว โดยยอมรับว่าหนังเรื่องDune ไม่ใช่ความผจญภัยแนวมหากาพย์ ที่มันควรจะเป็น รวมถึงรายละเอียดยิบย่อยต่างๆที่ยากต่อความเข้าใจและยังไม่ได้รับการอธิบายที่ดีพอให้กับผู้ชม“
KUBET เว็บไซต์ลับความบันเทิงระดับโลก ที่นี่คุณสามารถดูข่าวบันเทิงล่าสุด ชีวิตดารา ข่าวดารา ซุบซิบดารา ฯลฯ ให้คุณได้รู้จักและติดต่อนักร้องและดาราที่คุณชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงคุณสามารถอัปเดตหนังดัง ที่มาที่ไป เบื้องลึกเบื้องหลัง ของหนังหรือการ์ตูนที่คุณชื่นชอบได้ที่นี่เลย