ต่อเนื่องจาก EP.4 กับการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของ Britney Spears เป็นเรื่องที่สะเทือนใจและกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกโซเชียลมาอย่างยาวนาน เธอถูกควบคุมชีวิตจากครอบครัวและทีมกฎหมายของเธอเองเป็นเวลาถึง 14 ปี ภายใต้ระบบการพิทักษ์สิทธิ์ (Conservatorship) ที่พรากอิสรภาพทุกอย่างไปจากเธอ
อีพีสุดท้ายนี้ เราจะมาวิเคราะห์ว่าเธอสามารถหลุดพ้นจากระบบดังกล่าวได้อย่างไร และบทลงโทษของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างไร รวมถึงเหตุการณ์อันน่าตกใจที่ถูกจัดฉากขึ้นเพื่อทำให้เธอดูเสียสติในสายตาของสาธารณชน
แผนการจัดฉาก และคืนที่เปลี่ยนชีวิต
ย้อนกลับไปในวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนเส้นทางชีวิตของ Britney ไปตลอดกาล ทุกอย่างเริ่มจากคำบอกเล่าของเธอเองว่า มีการรวมตัวของแม่ เพื่อนสนิทของแม่ และเพื่อนหญิงอีกสองคนที่บ้านของเธอในคืนก่อนวันจริง การรวมตัวดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจากความห่วงใย แต่เป็นแผนการที่ถูกวางไว้อย่างแนบเนียน
เมื่อเช้าวันนั้นมาถึง Britney ได้รับแจ้งจากแม่ของเธอว่า จะมีคนมาพบเธอเพื่อพูดคุยปรึกษา และแนะนำให้เธอออกไปพบกันที่โรงแรม
ซึ่งในตอนแรก เธอเข้าใจว่ามีทนายความมาหารือเกี่ยวกับสิทธิการเลี้ยงดูลูกของเธอ แต่เธอไม่รู้เลยว่า สิ่งที่รออยู่ข้างหน้าคือฝันร้ายที่เธอไม่เคยคาดคิด
เธอเล่าว่า หลังจากผ่านไป 4 ชั่วโมง ทันใดนั้น เธอเห็นปาปาราซซี่กว่า 200 คนปักหลักอยู่นอกบ้าน ก่อนที่เธอจะถูกพาออกไป โดยใช้รถพยาบาลฉุกเฉินเมื่อถึงตอนนั้นเอง
Britney ก็รู้ทันทีว่าเธอถูกจัดฉากให้เป็น “คนเสียสติ” เพื่อให้มีเหตุผลในการส่งตัวเธอเข้ารับการรักษาโดยไม่สมัครใจ และเพื่อให้ครอบครัวของเธอสามารถควบคุมชีวิตเธอได้อย่างสมบูรณ์
ผลกระทบจากการถูกควบคุม และการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ
หลังจากเหตุการณ์นั้น Britney ถูกบังคับให้อยู่ภายใต้ระบบ Conservatorship ซึ่งมี Jamie Spears พ่อของเธอ เป็นผู้ดูแลหลัก เธอถูกจำกัดอิสรภาพทุกอย่าง
ตั้งแต่การเงิน การตัดสินใจเรื่องส่วนตัว ไปจนถึงเรื่องพื้นฐานอย่างการพบปะผู้คนและการใช้โทรศัพท์ เธอไม่มีสิทธิ์ควบคุมเงินที่เธอหามาเอง และต้องขออนุญาตทุกครั้งหากต้องการทำอะไรที่คนทั่วไปสามารถทำได้อย่างอิสระ
แต่หลังจากอยู่ในระบบนี้มานานกว่า 14 ปี ในที่สุด เธอก็ตัดสินใจลุกขึ้นสู้ โดยการส่งคำร้องต่อศาลเพื่อขออิสรภาพ ซึ่งการพิจารณาคดีในปี 2021 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ
การเปิดเผยข้อมูลต่อศาลของเธอทำให้ประชาชนทั่วโลกตระหนักถึงความอยุติธรรมที่เธอได้รับ กระแส #FreeBritney ที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดียช่วยเพิ่มแรงกดดันให้กับศาล และในเดือนพฤศจิกายน 2021 ศาลมีคำสั่งให้ยุติระบบ Conservatorship อย่างเป็นทางการ Britney Spears ได้รับอิสรภาพที่เธอควรมีมาตลอดคืนมาอีกครั้ง
เบรกอารมณ์กันสักครู่ สำหรับใครที่กำลังมองหา แหล่งทำทุน ขอแนะนำศูนย์รวมห้องเดิมพันหลายประเภทการันตีโดย PAGCOR พร้อมแจกโบนัสอีกมากมาย เช่น โบนัสที่ยิ่งเล่นยิ่งคุ้มใน “คาร์นิวัล แจกเงินสด100ล้านทุกสัปดาห์”
บทลงโทษของผู้เกี่ยวข้อง
เมื่อความจริงถูกเปิดเผย สังคมเริ่มตั้งคำถามว่า บุคคลที่มีส่วนร่วมในการควบคุมและลิดรอนสิทธิของ Britney จะได้รับโทษอย่างไร แม้ว่าจนถึงปัจจุบัน Jamie Spears จะยังไม่ได้รับโทษทางกฎหมายที่ชัดเจน แต่ชื่อเสียงของเขาถูกทำลายอย่างหนัก และเผชิญกับการฟ้องร้องจาก Britney เอง
ส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นทีมกฎหมาย แพทย์ที่ให้การรับรองว่าเธอมีปัญหาสุขภาพจิต รวมถึงผู้จัดการของเธอ หลายคนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
และต้องเผชิญกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลายฝ่ายคาดหวังว่าจะมีการดำเนินคดีต่อผู้ที่สมรู้ร่วมคิดในแผนการนี้เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ Britney และเป็นกรณีตัวอย่างไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้กับใครอีก
เส้นทางชีวิตของ Britney เป็นตัวอย่างของการที่คนใกล้ตัวสามารถใช้กฎหมายมาเป็นเครื่องมือควบคุมและลิดรอนสิทธิของบุคคลได้อย่างน่ากลัว
แต่ในขณะเดียวกัน การต่อสู้ของเธอก็เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของสังคมออนไลน์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างแท้จริง หากไม่มีแรงสนับสนุนจากแฟนคลับและกระแส #FreeBritney เธออาจไม่มีวันได้รับอิสรภาพกลับคืนมา
อีพีนี้ถือเป็นบทสรุปของเรื่องราวอันยาวนานที่เต็มไปด้วยความทุกข์และการต่อสู้ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของ Britney ในฐานะผู้หญิงที่ได้รับอิสรภาพคืนมาอีกครั้ง
แม้ว่าเธอจะต้องเผชิญกับบาดแผลทางจิตใจที่เกิดจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา แต่เธอก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า เธอคือผู้รอดชีวิตจากระบบที่อยุติธรรม และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลกที่ต้องการยืนหยัดเพื่อตัวเอง
Britney Spears อาจผ่านเส้นทางจากสวรรค์สู่นรกบนดินมาแล้ว แต่จากนี้ไป เธอคือผู้กำหนดเส้นทางของตัวเอง และเธอจะเป็นอิสระ…ตลอดไป
เว็บไซต์ลับความบันเทิงระดับโลก ที่นี่คุณสามารถดูข่าวบันเทิงล่าสุด ชีวิตดารา ข่าวดารา ซุบซิบดารา ฯลฯ ให้คุณได้รู้จักและติดต่อนักร้องและดาราที่คุณชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิด