เป็นเรื่องอีกแล้ว สำหรับผู้กำกับสัปเหร่อ อย่างต้องเต ที่ได้ไปร่วมงานพูดคุยใน “จากจักรวาลไทบ้าน สู่พลังอีสานสร้างสรรค์” ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับ ซอฟต์พาวเวอร์ ทำเอาดิ้นกันทั้งสภา จะเป็นประเด็นอะไรนั้นวันนี้ KUBET จะพาไปชมกันครับ
ต้องเต ตอบเดือดเมื่อเจอคำถามนี้?
มาแรงแซงทุกข่าวเลยสำหรับการไปร่วมงานเสวนาของ ต้องเต ผู้กำกับสัปเหร่อ ที่ตอนนี้หนังมุ่งหน้าสู่ 700 ล้านบาทแล้วถือเป็นหนังไทยในรอบหลายปีตั้งแต่โควิดที่สามารถทำกำไรได้มหาศาลขนาดนี้เป็นเรื่องแรก โดยเรื่องมันเกิดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 เมื่อเจ้าตัวได้ไปพูดคุยใน “จากจักรวาลไทบ้าน สู่พลังอีสานสร้างสรรค์” ที่จัดโดย กองบรรณาธิการLocals ThaiPBS ร่วมกับ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และภาคีเครือข่ายถึงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ Creative Economy
พอเริ่มรายการต้องเต-ธิติ ศรีนวล ได้ตอบคำถามของพิธีกรที่ว่า ตอนแรกอย่างที่รู้กันว่าหนังสัปเหร่อไม่ได้มีคนสนับสนุน ทีนี้หนังของคุณต้องเตก็กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ระหว่างทางมันมีอุปสรรคอะไรไหม อยากให้ต้องเตอธิบายเพื่อให้น้องคนอื่นๆที่อยากทำหนังจะได้เดินทางเส้นนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง ซึ่งหลังจากที่พิธีกรตอบเสร็จคำตอบของผู้กำกับคนนี้ทำเอารัฐบาลดิ้นกันเป็นแถวๆ โดยเจ้าตัวได้ตอบว่า
“จริงๆ หนังสัปเหร่อ มันน่าจะเดินทางได้สุดแค่ประมาณนี้แหละ แต่ผมคาดหวังว่าเรื่องต่อๆ ไป ไม่ใช่เรื่องของผมนะครับ เรื่องต่อๆ ไปในวงการอุตสาหกรรม เพราะว่าเหมือนเราเป็น อาจจะสร้างปรากฏการณ์หรือเป็นกระแส จากกระแสที่ไม่มีคนพูดถึง กลายเป็นกระแสหลัก แล้วทำให้วงการภาพยนตร์รู้สึกว่าเอ้ย! แล้วก็วงการอื่นๆ”
ต้องเตยังได้พูดต่ออีกว่า “ อย่างรัฐบาลเขาเห็น มองเห็นอย่างนี้ครับ ผมว่าเอ้ย! ถ้ามันมีเรื่องอื่นที่มันดี แล้วพาเขาไป ให้มาซอฟต์พาวเวอร์ จริงๆ หน่อย ไม่ใช่แค่มาถ่ายรูปอย่างเนี่ย คุณอาจจะไม่ได้เข้าใจหนังสัปเหร่อจริงๆ เลยก็ได้ แค่มาถ่ายรูป แล้วบอกว่าหนังสัปเหร่อเป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างเนี่ย อย่างตัวผมเองยังไม่รู้เลยว่าซอฟต์พาวเวอร์มันคืออะไร ตอนผมทำนะครับ”
พร้อมตอกกลับด้วยประโยคเด็ดอีกประโยคหนึ่งคือ “แล้วหนังผมมันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ใช่เหรอ ผมยังไม่รู้เลย ถ้าผมได้รู้หรือทำความเข้าใจว่า ซอฟต์พาวเวอร์มันคืออะไร หนังมันไปไกลกว่านี้ หนังมันมีซอฟต์พาวเวอร์ จริงๆ แน่นอนอย่างนี้ครับ”- BY KUBET
“ดังนั้นถ้ามีการพูดคุยหรือเสวนา ในวงการที่คุณต้องการจะเอาซอฟต์พาวเวอร์ให้เผยแพร่ต่อต่างประเทศ หรือจะพาเขาไปอย่างนี้ครับ ให้พาไปจริงๆ ไปไม่ใช่แค่ หนังเรื่องนี้โกอินเตอร์ อย่างเช่นไป 9 ประเทศนี่ก็ไม่ใช่เขาพาไปนะครับ ก็คือหนังมันไปเอง และเราก็ไปขายเอง มันไม่ใช่รัฐบาลพาไป อันนี้พูดตรงๆ” หลังจากที่รายการนี้ถูกแพร่เผยออกไปก็มีทั้งคนที่เห็นด้วยกับต้องเตและไม่เห็นด้วย พร้อมมีการตอบโต้กันไปมาของทั้ง 2 ฝั่งจนรัฐบาลได้ยินถึงเสียงนั้น
รองเลขาธิการ นายกฯ เคลื่อนไหวหลังได้รู้คำตอบของต้องเต
หลังเรื่องนี้ได้รู้ถึงหูรองเลขาธิการ นายกรัฐมนตรีและรองโฆษกของพรรคเพื่อใคร เอ้ย!!เพื่อไทย (หยอกๆครับ) อย่างนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ในวันนั้นเลยคือวันที่ 5 เพื่อที่จะชี้แจงไม่ให้คนไทยส่วนใหญ่เข้าใจในรัฐบาลชุดนี้ผิดว่า ..
“รัฐบาลเพิ่งได้เข้ามาเริ่มผลักดันนโยบาย SoftPower และไม่ได้คิดจากเคลมผลงานใดๆ จากความสำเร็จของภาพยนตร์สัปเหร่อ ครับ แต่มีเจตนาที่จะสนับสนุน และชี้ให้เห็นตัวอย่างหนึ่งของผลงานที่มีคุณภาพ ในฐานะคอหนัง ผมเป็นคนหนึ่งที่เข้าชมภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยความตั้งใจ และประทับใจผลงานด้วยใจจริง”
“หวังอย่างยิ่งว่าในเร็วๆ นี้ ความสนใจและตั้งใจจริงของรัฐบาลชุดนี้ ที่จะสนับสนุนธุรกิจสร้างสรรค์แขนงต่างๆให้เติบโตและเป็นที่ยอมรับในวงกว้างขึ้น จะเห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วครับ” พร้อมโพสต์รูปนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ใช้หาเสียงว่าจะสนับสนุนวงการภาพยนตร์จนกลายเป็น ซอฟต์พาวเวอร์ อย่างหนึ่งของประเทศไทยให้ได้
จบไปแล้วสำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากการแค่ตอบคำถามของต้องเตทำเอา ทุกคนต่างออกมาแสดงความเห็นในแง่ต่างๆเยอะแยะมากมายมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยแต่อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่อยากดูหนังดีๆแบบนี้ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ KUBET ได้เลยครับ