รีวิว My Spy: The Eternal City ดุเดือดบ้าระห่ำกว่าเดิม ภาคต่อที่มาพร้อมกับความมันส์คูณสองใครที่เป็นแฟนหนังเรื่องนี้อยู่แล้วต้องชอบภาคนี้อย่างแน่นอนครับ ใครที่อยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้จะสนุกแค่ไหนตาม KUBET มาได้เลยครับ
My Spy: The Eternal City
My Spy: The Eternal City เป็นภาพยนตร์ตลกแอคชั่นสัญชาติอเมริกันปี 2024 กำกับโดย Pete Segal ซึ่งร่วมเขียนบทภาพยนตร์กับ Jon และ Eric Hoeber อีกด้วย ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นภาคต่อของภาพยนตร์ My Spy ปี 2020 นำแสดงโดย Dave Bautista, Chloe Coleman, Kristen Schaal และ Ken Jeong ซึ่งกลับมารับบทเดิมจากภาพยนตร์เรื่องก่อน โดยมี Flula Borg, Craig Robinson และ Anna Faris ร่วมแสดงนำ โดยหนังเรื่องนี้เข้าฉายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2024
เรื่องย่อ
My Spy: The Eternal City เป็นภาคต่อของหนังแอคชั่นคอมเมดี้ที่ยังคงความสนุกแบบเดิม แต่มาพร้อมกับฉากหลังที่สวยงามของกรุงโรม โดยในภาคนี้ได้บอกเล่าเรื่องราวของเจเจ (รับบทโดย เดฟ บาติสต้า) และโซฟี (รับบทโดย โคลอี้ โคลแมน) ที่ตอนนี้โตเป็นวัยรุ่นแล้ว ต้องกลับมาร่วมมือกันอีกครั้งในภารกิจสุดป่วน เมื่อทริปทัศนศึกษาของวงประสานเสียงโรงเรียนที่กรุงโรม กลายเป็นจุดศูนย์กลางของแผนการก่อการร้ายครั้งใหญ่
การผจญภัยครั้งใหม่นี้ พาพวกเขาไปตะลุยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของอิตาลี ตั้งแต่เวนิส ฟลอเรนซ์ จนถึงกรุงโรม พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับเหล่าวายร้าย และร่วมกันไขปริศนาเพื่อหยุดยั้งแผนการร้ายที่อาจจะส่งผลกระทบต่อโลกทั้งใบ จุดเด่นของภาคนี้นอกจากฉากแอคชั่นที่สนุกสนานแล้ว ยังมีการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเจเจและโซฟีที่น่าสนใจมากขึ้น เพราะโซฟีโตเป็นวัยรุ่นแล้ว ทำให้ทั้งคู่ต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจกันและกันมากขึ้นนั่นเอง
ข้อดีของหนัง
- ความสัมพันธ์ที่เติบโต: หนังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักทั้งคู่ ซึ่งเป็นส่วนที่น่าสนใจและเป็นจุดแข็งของภาคนี้
- ฉากแอคชั่น: ยังคงมีฉากแอคชั่นที่สนุกสนานและตื่นเต้น เรียกเสียงฮาได้ตลอดเรื่อง
- ฉากหลังที่สวยงาม: การถ่ายทำในกรุงโรม ทำให้ได้ภาพที่สวยงามและตื่นตาตื่นใจ – BY KUBET
ข้อเสียของหนัง
- พล็อตเรื่องเดิมๆ: พล็อตเรื่องค่อนข้างซ้ำซากเมื่อเทียบกับภาคแรก ทำให้ขาดความแปลกใหม่
- ความตลกที่ลดลง: แม้จะมีฉากตลกอยู่บ้าง แต่ความฮาโดยรวมอาจจะไม่เท่าภาคแรก
- กลุ่มเป้าหมาย: หนังพยายามจะขยับกลุ่มเป้าหมายไปที่วัยรุ่นมากขึ้น ทำให้ความสนุกสนานแบบครอบครัวลดลงไปบ้าง
สรุปภาพรวมและความคุ้นค่าของหนัง
My Spy: The Eternal City เป็นหนังที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบหนังแอคชั่นคอมเมดี้เบาสมอง และอยากจะได้ชมวิวสวยๆของเมืองต่างๆในอิตาลีไปด้วย หากคุณกำลังมองหาหนังเพื่อความบันเทิงในช่วงวันหยุดหนังเรื่องนี้อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจโดยหนังเรื่องนี้เน้นความบันเทิงหนังเรื่องนี้ไม่ได้เน้นเนื้อหาที่ลึกซึ้งหรือดราม่ามากนัก แต่เน้นความสนุกสนานและความบันเทิงเป็นหลักแต่อาจจะมีบางฉากที่รุนแรงอยู่บ้างและมีบางฉากที่เหมาะสำหรับผู้ชม 18 ปีขึ้นไป
สำหรับแฟนหนังภาคแรก หากคุณชอบภาคแรกแล้ว ภาคต่อเรื่องนี้ก็จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอนเพราะยังคงเอกลักษณ์และความสนุกยังคงอยู่แบบเดิมเลยครับ สำหรับคนที่ชอบหนังแอคชั่นคอมเมดี้ หากคุณกำลังมองหาหนังที่ดูแล้วผ่อนคลาย หัวเราะได้ และมีฉากแอคชั่นที่สนุกสนาน หนังเรื่องนี้ตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอนและส่วนคนที่ชอบเที่ยวอิตาลี การได้ชมวิวเมืองต่างๆในอิตาลีผ่านทางหนังเรื่องนี้ ก็ถือเป็นการได้ท่องเที่ยวไปพร้อมๆกันเลยครับ
ในเรื่องของความคุ้มค่าที่จะดูหนังเรื่องนี้ก็ต้องบอกตามตรงว่าหากคุณคาดหวังว่าจะได้ดูหนังที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้น ฉากบู๊แบบดุเดือดอาจจะต้องผิดหวัง เพราะหนังไม่ได้ทำออกมาให้จัดจ้านขนาด นั้นแต่ถ้าถามว่าควรค่าแก่การนั่งดูในวันหยุดไหมบอกเลยว่าคุ้มค่ามากครับ อยากให้ลองไปดูกันนะครับ ซึ่งเรื่องนี้ผมขอให้คะแนนอยู่ที่ 8/10 คะแนนครับ
จบไปแล้วสำหรับ รีวิว My Spy: The Eternal City ดุเดือดบ้าระห่ำกว่าเดิม เป็นยังไงกันบ้างครับใครที่ชอบหนังแนวนี้ก็ไปหาดูกันได้เลยนะครับ ส่วนใครที่อยากดูหนังแนวอื่นๆก็สามารถเข้ามาดูกันได้ที่ KUBET ได้เลยครับ (สมัครสมาชิกได้ที่นี่)